“ไทยสร้างไทย” หนุน “สุดารัตน์” ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคคนใหม่และแคนดิเดตนายกฯ ประกาศนำทัพไทยสร้างไทย “ปลดล็อค เปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่า” ขอทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
ที่ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน พรรคไทยสร้างไทย จัดประชุดใหญ่วิสามัญ “มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกและโหวตเตอร์ จากทั่วประเทศกว่า 700 คนพร้อมผู้บริหารพรรคเข้าร่วมงาน เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดร.โภคิน พลกุล นายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.ต.ศิธา ทิวารี นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายประวัฒน์ อุตตะโมช นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ เข้าร่วมประชุม
จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการประชุม โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จำนวน 50 คนและที่ประชุมได้เลือกคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค และมีมติสนับสนุนให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคด้วย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นรองหัวหน้าพรรค
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น เป็นรองหัวหน้าพรรค
นายประวัฒน์ อุตตะโมช เป็นรองหัวหน้าพรรค
พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นรองหัวหน้าพรรค
น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นเลขาธิการพรรค
และ นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ เป็นโฆษกพรรค
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ โดยกล่าวถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่เชิญชวนพี่น้องประชาชน “มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย” โดยระบุว่า ขอบคุณพี่น้องชาวไทยสร้างไทย ที่ได้ให้ความไว้วางใจเลือกเป็นผู้นำพรรค ขอให้คำมั่นว่าจะทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ ขอนำประสบการณ์ 30 ปีที่ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน มานำทัพไทยสร้างไทย ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่เราได้ตั้งปณิธานไว้
“เราจะมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน เพราะพี่น้องชาวไทยเหนื่อยมามากแล้ว ถูกละเลย ถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้สู้ปัญหาเพียงลำพัง โดยขาดการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจ”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
“จากนี้ไปพรรคไทยสร้างไทยขออาสาที่จะเหนื่อยแทนพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น ไทยสร้างไทยจะไม่ปล่อยให้พี่น้องต้องสู้กับความยากลำบากตามยถากรรมอีกต่อไปเราขอสู้เคียงข้างพี่น้อง ดิฉันขอสัญญาค่ะ”
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยระบุด้วยว่า 90 ปีประชาธิปไตย ประชาชนยังถูกบั่นทอนและคุกคามสิทธิเสรีภาพด้อยค่าประชาธิปไตยประชาธิปไตยถูกบิดเบือนด้วยอำนาจเงินอิทธิพลและวาทกรรมต่างๆ ไม่เคยคิดต่อสู้กับระบอบอำนาจนิยมแต่กลับร่วมมือ และกดทับประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็ก 8 ปีที่ผ่านมาคือการตกผลึกว่าไม่มียุคใดสมัยใดที่ประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็กถูกละเลยและย่ำยีได้เท่านี้อีกแล้ว กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือนการคอรัปชั่นเป็นไปอย่างมโหฬารไม่มียางอายเพราะระบบตรวจสอบมาจากอำนาจนิยมระบบราชการมุ่งรับใช้อำนาจนิยมประชาชนจึงแทบไม่เหลือตัวตน กระทบถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ
จึงได้ประกาศที่จะปลดล็อค อุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาประเทศทั้งปวง โดยเริ่มจากการปลดล็อคความขัดแย้งทางการเมือง ที่ดำเนินมาว่า 16 ปี เลือกฝั่งหนึ่งก็ติดหล่มเลือกอีกฝั่งก็ติดล็อค ประเทศไปต่อไม่ได้ ไทยสร้างไทยจึงไม่สามารถปล่อยให้ประเทศเป็นเช่นนี้ได้ จึงต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน ในการสร้างรัฐธรรมนูญของประชาชนเพื่อประชาชน ผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่สำคัญที่สุดรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจะต้องมีบทบัญญัติให้คนล้มล้างรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ และต้องรับโทษทัณฑ์สูงสุด ที่ย่ำยีอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย
ต่อมาคือการการปลดล็อคกฎหมายที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้ร่างกฎหมายพักใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการอนุมัติ อนุญาตรวมถึงโทษอาญาหรือทางปกครองไว้ชั่วคราว 3-5 ปีประมาณ 1,300 ฉบับ ควบคู่กับการทำกิโยตินกฎหมายเพื่อให้เหลือแต่กฎหมายที่จำเป็น
ปลดล็อคที่สาม คือการเปลี่ยนรัฐราชการให้เป็น รัฐประชาชนให้สำเร็จ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนและส่งเสริมให้ประชาชนในการดำรงชีวิตและการทำมาหากินของประชาชนให้ง่ายขึ้น
และสี่คือการปลดล็อคจากการทุจริตคอรัปชั่นอันเปรียบเสมือนมะเร็งร้ายเป็นรากเหง้าของปัญหา ซึ่งได้ฝังรากลึกไปทุกวงการโดยเฉพาะนักการเมืองระดับประเทศนักการเมืองท้องถิ่นราชการและรัฐวิสาหกิจ
สอดคล้องกับดัชนีภาพลักษณ์คอรัปชั่นที่จัดโดยองค์กรความโปร่งใสนานาชาติ ประเทศไทยนั้นแย่ลงมาโดยตลอด สะท้อนว่านับแต่ปี 2557 ที่มีการยึดอำนาจ ประเทศนั้นเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชั่น และจากการจัดอันดับล่าสุดในปี 2565 ไทยได้เพียง 35 คะแนนจาก 100 คะแนน ได้อันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ ดังนั้นการรัฐประหารที่อ้างว่าทำเพื่อการปราบโกง จึงเป็นข้ออ้างที่หลอกลวง และกลุ่มผู้ที่ทำรัฐประหารนั่นแหละ ที่ทำให้เกิดการคอรัปชั่นในประเทศเลวร้ายลงไปอีก
คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าความจริงใจของผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญในการปราบการทุจริตคอรัปชั่น ดังนั้นหากผู้นำมีความใสสะอาดจะสามารถปราบคอรัปชั่นได้ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้เตรียมโมเดลไว้แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะเอาตัวคนโกงมาติดคุกได้
เมื่อปลดล็อคออกจากสิ่งกดทับทั้งปวงพรรคไทยสร้างไทยจะสร้างอำนาจให้ประชาชนด้วยการส่งเสริมประชาชนคนตัวเล็ก เพื่อรวมตัวกันให้มีอำนาจต่อรอง ส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งทุนความรู้และการตลาด ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อปลดล็อคสิ่งต่างๆแล้วคนไทยจะสามารถระเบิดศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่เศรษฐกิจไทยจะแล่นทะยานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และพรรคไทยสร้างไทยจะเน้นการสร้างรายได้ไม่ใช่การกู้ โดยมีเป้าหมายการสร้างรายได้บนพื้นฐานความเข้มแข็งเดิมของประเทศ ไว้ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1) เป็นศูนย์กลางอาหารคุณภาพป้อนคนทั่วโลก
2) ศูนย์กลางสุขภาพและ WELLNESS
3) ศูนย์กลางการท่องเที่ยว
4) ศูนย์กลางคมนาคมและโลจิสติกส์ของภูมิภาค
นอกจากนั้นต้องเตรียมรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่ภูมิรัฐศาสตร์โลก มีมหาอำนาจของโลก 2 ขั้ว ซึ่งเผชิญหน้าและกดดันกันอย่างรุนแรง ประเทศไทยจึงต้องจัดวางตำแหน่งของตนเอง ให้เกิดความเหมาะสม สมดุลจากวิกฤตนี้ เพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุด ไทยสร้างไทยจะพลิกวิกฤตโลกให้เป็นโอกาส ในการสร้างรายได้ จากฐานเศรษฐกิจใหม่ เช่นการใช้วิกฤตห่วงโซ่อุปทานที่เกิดปัญหา ดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมแบบใหม่ๆเข้ามาสู่ประเทศไทย เช่น อุตสาหกรรมรถ EV และเซมิคอนดักเตอร์ฯ ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน ด้าน ดิจิทัลอิโคโนมี หรือทำให้ไทยเป็นถิ่นพำนักระยะยาวของคนเก่งหรือมหาเศรษฐี ที่จะWORK FROM THAILAND
และไทยสร้างไทยจะดูแลคุณภาพชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่นโครงการ 30 บาทสุขภาพดีถ้วนหน้า เรียนฟรีจบปริญญาตรี ลดเวลาเรียน เพิ่มคุณภาพการศึกษา และโครงการบำนาญประชาชนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย
คุณหญิงสุดารัตน์ได้เชิญชวนให้คนไทย มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ลุกขึ้นมาปฏิวัติไม่ยอมจำนนต่ออำนาจเงินอำนาจรัฐ และใช้ความกล้าหาญในกาพรรคไทยสร้างไทยในทุกเขตเลือกตั้ง