“วิษณุ”ชี้กกต.วางไทม์ไลน์เลือกตั้ง 7 พ.ค.แค่เป็นแนวทาง ย้ำในทางทฤษฎี “บิ๊กตู่”รักษาการนายกฯ ยันไม่ได้กลิ่นการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการกำหนดไทม์ไลน์เลือกตั้งของ กกต. ในวันที่ 7 พ.ค. นั้น ช้าไปหรือไม่ ว่า กฎหมายกำหนดให้เขาต้องประกาศ 180 วันก่อนที่จะสภาจะสิ้นสุดวาระลง ดังนั้นวันนี้กกต.เขาก็ทำเป็นซีนาริโอ 2 แบบ คือ ถ้าอยู่ไปจนถึงวันที่ 23 มี.ค. เขาก็ต้องเตรียมการว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ซึ่งต้องส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้ บางอย่างรัฐบาลทำ บางอย่างก็ กกต. ทำ แต่ถ้ามีการยุบสภาก่อน อันนี้จะยุบเมื่อไรนั้นอีกเรื่อง กกต.ก็ไม่เกี่ยวเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่รัฐบาลตั้งรู้ว่าถ้ายุบสภาเมื่อไรรัฐบาลจะต้องทำอะไร และต่อจากนั้น กกต. จะได้รับลูกไปทำอะไรต่อบ้าง เพราะถ้ามีการยุบสภาก็ต้องเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน แต่ถ้าหากสภาอยู่จนครบวาระก็ให้จัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน เขาถึงได้กำหนดไว้ว่าให้อยู่จนครบเทอมในวันที่ 23 มี.ค. 66 ก็น่าจะจัดการเลือกตั้งได้ประมาณวันที่ 7 พ.ค. 66 ซึ่งเป็นการกำหนดมาทุกรูปแบบ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ในอดีตทุกครั้งที่ผ่านมาก็ทำเช่นนี้
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการออข่าวเตือนว่าเหลือเวลาอีกประมาณ 180 วัน แต่ละพรรคต้องทำอย่างไรบ้างนั้น ถือเป็นความรอบคอบที่ กกต.ต้องเตือน ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการเตือนเพราะมีกฎหมายเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็ต้องปฏิบัติตาม แต่เนื่องจากขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งอยู่ระหว่างการแก้ไข ซึ่งยังคงต้องใช้กฎหมายฉบับเดิม แต่อีกหน่อยเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว ก็จะต้องใช้กฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่ วันนี้ถือว่าอยู่ระหว่างเก่าและใหม่ กกต.จึงจำเป็นต้องออกคู่มือเตือนไว้ก่อน ทั้งเรื่องการแจกเงิน การหาเสียง และตนจึงได้ประสานให้ กกต. ช่วยส่งประกาศฉบับดังกล่าวมาเพื่อลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีการแก้ไขเล็กน้อย เข้าใจว่าวันที่ 22 ก.ย.นี้คงจะออกและส่งมาได้ เพราะต้องมีผลก่อนวันที่ 24 ก.ย.นี้
เมื่อถามว่าเมื่อ กกต.ออกประกาศเตือน ในส่วนของรัฐบาล ครม. จะต้องเตรียมการอย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องเตรียมการหากไปทำอะไรในฐานะพรรคการเมือง แต่ถ้าทำในฐานะรัฐมนตรีถือว่าเป็นการทำในหน้าที่ แต่ถ้าคนๆ เดียวแต่สวมหมวก 2 ใบซ้อนกัน ก็ต้องระมัดระวังหน่อย เวลาจะทำอะไรก็ต้องทำให้ กกต.สามารถแยกออกได้ว่าทำในฐานะอะไร
“ผมเห็นร่างคร่าวๆ แล้ว ว่าแจกเงินอะไรต่ออะไรไม่ได้ เขาห้ามเฉพาะผู้สมัคร และพรรคการเมือง แต่ถ้าเป็นรัฐมนตรีไม่เป็นไร แต่ถ้าอนาคตรัฐมนตรีจะไปเป็นผู้สมัคร ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เดี๋ยวแยกไม่ออกก็จะเกิดการฟ้องร้องกันเสียเปล่า และถ้าวันนี้ กกต. ส่งประกาศมา แล้วลงในราชกิจจานุเบกษาก็จะมีการแจ้งรายละเอียดให้กับ ครม.ทราบ ในวันอังคารที่ 27 ก.ย.”นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่าหลังกกต.ประกาศในเรื่องไทม์ไลน์การเลือกตั้งแล้ว ในส่วนของรัฐบาลจะต้องทำอย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า เกือบจะไม่ค่อยมีอะไร หากอยู่จนครบเทอมรัฐบาลก็เกือบจะไม่ต้องทำอะไร กกต.จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล รวมทั้งการกำหนดวันรับสมัคร วันร้องคัดค้าน แต่ถ้าเป็นการยุบสภา รัฐบาลก็จะทำเพียงอย่างเดียว คือการออกพระราชกฤษฎีกายุบสภา ซึ่งในเนื้อหาจะไม่ได้บอกวันเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต. กำหนดออกประกาศวันเลือกตั้ง ภายใน 5 วัน ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไร รับสมัครเมื่อไร
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีสามารถพูดได้หรือไม่ว่าจะมีการยุบสภาหลังเอเปค นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าไปถามกันมากๆ ท่านอาจพูดบ้าง เอาไว้ว่ากันหลังเอเปค ความหมายคืออย่างนั้น ไม่ใช่จะไปยุบอะไร ถ้าถามว่าพูดได้หรือไม่ สามารถพูดได้เพราะมีอำนาจที่จะยุบ แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะไปจับให้มั่นคั้นให้ตาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าในวันที่ 30 ก.ย.ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี หากพล.อ.ประยุทธ์ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ยังสามารถรักษาการและสามารถยุบสภาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในทางทฤษฎีได้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 169 จะมีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่าในกรณีที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีต้องรักษาการ แต่จะรักษาการไม่ได้ ก็จะมีเหตุผลบัญญัติไว้ในแต่ละข้อ และเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี แต่ในทางปฏิบัติตนเคยบอกแล้วว่ามันไม่สมควร ตนเชื่อว่าความควรไม่ควรทุกคนก็รู้อยู่ เมื่อถามว่าหมายถึงนายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนตัดสินใจเองใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่ครับ”
เมื่อถามว่าศาลรัฐธรรมนูญจะตอบเฉพาะในส่วนที่ฝ่ายค้านถาม นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ แต่ตามหลักเขาก็ต้องตอบเฉพาะที่ฝ่ายค้านถาม หลักก็มีอยู่แล้วว่าเขาไม่ตัดสินเกินคำฟ้อง หรือเกินคำขอ เมื่อถามว่าในอนาคตหากมีปัญหาค่อยร้องใหม่ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แม้แต่ตามคำขอเขาก็อาจจะบอกอะไรมาได้มากพอสมควรแล้ว
เมื่อถามว่านายวิษณุอยู่ในการเมืองมานานมองบรรยากาศบ้านเมืองเวลานี้อย่างไรบ้าง นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไรแตกต่างเท่าไร บ้านเมืองตอนนี้ ก็ฝนตก เปียก น้ำท่วม รถติด ยืนยันว่าในเรื่องทางการเมืองก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง และส่วนตัวก็ไม่ได้กลิ่นอะไรทางการเมือง เพราะสวมใส่หน้ากากทุกวัน และคิดว่าไม่มีอะไรในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ยังไม่ได้กลิ่น
เมื่อถามว่าในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองกรณีถ้าจะมีการยุบสภานายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจในเวลานั้น แล้วจำเป็นจะต้องบอกล่วงหน้าอะไรก่อนหรือไม่ กล่าวว่า คิดไว้ก่อน ก็อาจจะต้องคิด แต่ว่าคิดไว้ทุกรูปแบบ แล้วเรื่องการบอกล่วงหน้าคิดว่าไม่มี ในอดีตมันมี 2 แบบ บางครั้งนายกรัฐมนตรียุบสภาโดยไม่ได้บอกใครเลย บอกเพียงคนเดียวคือเลขาฯ ครม.แต่ในบางครั้งก็มีการหารือกับแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการภายใน ไม่ใช่พูดกันในการประชุม ครม. อย่าไปคาดการณ์อะไรเลย เหลือเพียงอาทิตย์เดียวแล้วก็น่าจะรู้เรื่อง