”ณัฐวุฒิ”เชื่อยุบสภาอย่างเร็วก็หลังการประชุมเอเปก ไม่ใช่การยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนแต่เป็นเพียงการช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งเท่านั้น
วันที่ 6 ต.ค.2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนมองภาพการเมืองใหญ่เวลานี้ ไม่มีทางที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะยอมปล่อยมือจากอำนาจ ด้วยความสำนึกว่าได้สร้างความเสียหายไว้กับประเทศ มีแต่จะหาช่องทางรักษาอำนาจ และลากดึงกันไปข้างหน้า
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าความขัดแย้งภายในกลุ่ม 3 ป. ยังมีอยู่จริง แต่คงไม่ข้ามพ้นผลประโยชน์ทางการเมือง และทางอำนาจที่ผูกไว้ร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีการยุบสภาอย่างเร็วก็หลังการประชุมเอเปก แต่ไม่ใช่การยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน เป็นเพียงการช่วงชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งเท่านั้น เพราะสุดท้ายพรรคฝ่ายรัฐบาลก็ได้เปรียบ
“สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องรู้เท่าทัน และต้องตัดสินใจร่วมกันให้ได้ว่า ถึงที่สุด ก้าวแรกในการเอาชนะอำนาจนี้คืออะไร สำหรับผมเชื่อว่า การเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง และเทคะแนนให้พรรคการเมืองหนึ่งในฝั่งประชาธิปไตยชนะ เพื่อยืนค้ำไว้ก่อน และร่วมมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย จัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย ยุติกลไกการสืบทอดอำนาจ คือทางเลือกที่เป็นไปได้ที่สุดในขณะนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะไม่เกิดการเลือกตั้ง หากพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการรักษาการเพื่ออยู่ยาวต่อไป นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ ตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังประกาศใช้ กลไกต่างๆ แม้จะบิดเบี้ยว แต่ก็ยังทำหน้าที่ได้อยู่ ตนขอเชื่อไว้ก่อนว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้าหรืออย่างช้ากลางปีหน้า เพราะเป็นวิธีที่สันติ และชอบธรรมที่สุด ต่อเมื่อเห็นสัญญาชัดเจนว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามต่อว่า การลงถนนชุมนุมในเวลานี้จะเหมาะสมหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเคารพในการตัดสินใจของทุกฝ่าย และไม่มีศักยภาพที่จะไปตัดสินว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่เชื่อในวิจารณญาณของแต่ละฝ่าย ว่าจะรับผิดชอบการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ ซึ่งมองว่าไม่มีกลุ่มไหนเจตนาร้ายต่อบ้านเมือง
