ตร.จ่อออก “หมายเรียก” กลุ่มมวลชนที่ปลดธงชาติสลับชักธงแดง ที่หน้า สภ.คลองหลวง “รองผบ.ตร.” แจงสารพัดข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์-ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน-ผิดพรก.ฉุกเฉินห้ามชุมนุม” ด้านโลกโซเชียลวิจารณ์สนั่น คลิป “ต่ำทรามไม่เลิก แก๊งเพนกวิน-แนวร่วม” จี้จนท.ตร.เอาผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง เพื่อประชุมรับทราบข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มมวลชนมาร่วมชุมนุมบริเวณหน้า สภ.คลองหลวง เพื่อกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการนำธงชาติไทยลงมาจากยอดเสา แล้วนำธงแดง สกรีน 112 ขึ้นไปแทนที่
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการนำธงชาติลงจากยอดเสา และนำเอาผ้าสีแดงคล้ายธง มีข้อความว่า “112” ขึ้นสู่ยอดเสาแทน ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือว่าเป็นกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เข้าข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมาย ข้อหา “ฝ่าฝืนการใช้ ชัก หรือแสดงธงที่มีความหมายถึงประเทศไทย หรือชาติไทย” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีการฉีดพ่นสีสเปรย์ บนสถานที่ราชการ และมีการชูป้ายผ้า มีข้อความที่เข้าข่ายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งหากพิสูจน์ทราบได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำ ก็จะต้องออก “หมายเรียก” มาดำเนินคดีในข้อหา “ทำให้เสียทรัพย์” และ “ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน” ด้วย
รองผบ.ตร. กล่าวต่อว่า การที่มวลชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ในช่วงที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งพบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตจากเจ้าพนักงาน และไม่มีมาตรการทางสาธารณสุข จึงเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ก็จะเข้าข่ายมีความผิด ตามข้อกำหนด ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามมิให้มีการชุมนุม ทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัดฯ มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
“ผู้ที่มาร่วมชุมนุมจะถือว่ามีความผิดทุกคน เว้นแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา เช่น ทนายความ ญาติ หรือบุคคลที่ผู้ต้องหาร้องขอให้มาร่วมรับฟังการสอบสวน คาดว่าทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้กระทำผิดที่พิสูจน์ทราบชื่อในวันนี้ (16 ม.ค.) จึงฝากเตือนกลุ่มความเห็นต่างว่า การใช้สิทธิเสรีภาพขอให้คำนึงหลักกฏหมาย อย่าเกินกรอบกฏหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่รักษากฏหมายจึงมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายไม่มีข้อยกเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ซึ่งกำลังมีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด”พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว
สำหรับกรณีดังกล่าว โลกออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปเรื่อง “ต่ำทรามไม่เลิก แก๊งเพนกวิน-แนวร่วม” ซึ่งหลังจากมีการดูคลิปดังกล่าวแล้ว หลายคนมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงความไม่เหมาะสมโดยเฉพาะการดูหมิ่นเหยียดหยาม ทำผิดต่อธงชาติ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่เชื้อโรค ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชนด้วยกันเอง โดยมีการประณามการกระทำดังกล่าวอย่างหนัก รวมไปถึงควาไม่เหมาะสมในการวิจารณ์ “สถาบัน” อันเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเอาจริงเอาจังกับการดำเนินคดี ไม่ใช่จับแล้วปล่อย เหมือนหลายคดีที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 ม.ค. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเร่งรัดติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่กลุ่มการ์ด We Volunteer ได้เปลี่ยนธงชาติไทยบริเวณด้านหน้า สภ.คลองหลวง และนำผ้าสีแดงที่มีข้อความว่า 112 สลับขึ้นยอดเสา เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดย ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้รับฟังความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นได้กำชับการปฎิบัติ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เกี่ยวข้องที่กระทำผิดต่อกฎหมาย รวมถึงการดำเนินการทางวินัยหากพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำผิดเพื่อประกอบการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป