ด่วน!!! “จตุพร-นิติธร” ประกาศเลื่อนนัดชุมนุมลงถนน 16 ตุลานี้ ยกเหตุ ปชช.ทุกข์เศร้าโศกกับเหตุฆ่าหมู่เด็ก ซ้ำเกิดสูญเสียมากมายจากภัยน้ำท่วมใหญ่ พร้อมรอ ศาล รธน.ตัดสิน กม.ลูกขัด รธน.หรือไม่ คาดนัดใหม่ปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย.นี้
เมื่อ 15 ต.ค. 65 นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ คณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน มีกุลธิดา ช้วนกุล ดำเนินรายการ โดยประกาศเลื่อนนัดเคลื่อนไหวในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เหตุประชาชนมีความทุกข์โศกเศร้าจากเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่เด็กเล็กที่ จ.หนองบัวลำภู และเกิดความสูญเสียมายมากกับปัญหาน้ำท่วม
นายจตุพร กล่าวว่า การนัดเคลื่อนไหววันที่ 16 ต.ค.นี้ ต้องเขยิบออกไป เนื่องจากขณะนัดกันนั้นยังไม่มีเหตุการณ์สังหารหมู่เด็กเล็กที่ จ.หนองบัวลำภู และเกิดน้ำท่วมจำนวนมาก ซึ่งกระทบความรู้สึกประชาชนจึงต้องเลื่อนเวลาออกไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ประชาชนสามารถติดตามรายการพูดคุยในโชเชียลมีเดียได้ตามปกติ โดยเสาร์-อาทิตย์ขยับไปพูดคุยเวลา 10.00 น ส่วนวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00 น. เหมือนเดิม
“ดังนั้น เรายังไม่รีบทวนความรู้สึกของประชาชนรวมถึงเรารอการพิจารณาของ ศาล รธน. ซึ่งคาดปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้าจะนัดกันอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เราจึงเลื่อนเวลาจากนัดวันที่ 16 ต.ค.ออกไป เพื่อต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและได้นับหนึ่งประเทศไทยอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมสมัยสุดท้ายในวันที่ 1 พ.ย. นี้ และยังมีเรื่องใหญ่ ซึ่งพรรคการเมือง นักเคลื่อนไหว และ ประชาชนต้องติดตาม คือ ศาล รธน.จะนัดวินิจฉัยกฎหมายประกอบ รธน. (กฎหมายลูก) เกี่ยวกับการเลือกตั้ง กับพรรคการเมือง ว่า ขัด รธน.หรือไม่ ถ้าขัด รธน.เป็นเพราะเหตุใด เพราะการแก้ รธน.มาตรา 91 เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ใช้บัตร 2 ใบ แต่ทำได้ครึ่งเดียว ส่วนอีกครึ่งทำไม่ได้ โดยไม่ยอมให้แก้มาตรา 93-94 ดังนั้น จะต้องไปแก้ รธน. มาตรา 93-94 กรณี ส.ส.พึงมีด้วยหรือไม่ ซึ่งมีอุปสรรคกับการใช้เสียง ส.ว.อย่างน้อย 83 คนด้วย รวมทั้งอาจต้องทำกฎหมายลูกใหม่หรือไม่ โดยขั้นตอนเหล่านี้ ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น และโอกาสเสร็จทันในสมัยประชุมสภานัดสุดท้ายแทบเป็นไปไม่ได้ทางการเมือง
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องเหล่านี้นักการเมืองมักไม่พูดความจริงกัน เพราะกิเสสจากความอยากเลือกตั้งบังตา กำลังหลงไหลระบบบัตร 2 ใบ ได้เลือก ส.ส.เขต 400 คน แต่โอกาสเกิดการเลือกตั้งยากมาก นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกำหนดการเลือกตั้งจึงเป็นเพียงการสมมุติว่าถ้าสภาอยู่ครบวาระ อีกอย่างยังได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ถ้ามีการยุบสภา กกต.ไม่กล้าออก พรก.เลือกตั้ง-พรรคการเมือง เพราะขัด รธน. จึงกลัวความผิด ต้องติดคุก
อีกทั้ง หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตามเสียงเรียกร้องแล้วยุบสภา หรือนิ่งอยู่เงียบจนครบวาระสภา แต่เมื่อไม่มีกฎหมายลูกออกมา ก็เป็นรัฐบาลรักษาการยาวไม่มีกำหนด เนื่องจากข้อความท้ายวรรคสี่ของ รธน. 60 มาตรา 158 ไม่ให้นับรวมเวลารักษาการเป็นเวลาของตำแหน่งนายกฯ ดังนั้น โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ จะชิงยุบสภาย่อมง่าย แล้วได้เป็นนายกฯ ยาวที่สุดด้วย
“ขอให้ประชาชนอดทนอีกนิดเดียว อาจช่วงปลายเดือนนี้ (ต.ค.) หรือต้นเดือน พ.ย. คำวินิจฉัยของศาล รธน.ต้องออกมา เพราะไม่ต้องการเป็นจำเลยสังคม ซึ่งเท่ากับโยนเผือกร้อนให้สภา (อีกอย่าง) ถ้าจะให้ (วินิจฉัยว่าไม่ขัด รธน.) ก็คงไม่กั๊กไว้นานแบบนี้ คงให้ผ่านไปแล้ว ดังนั้น จึงเป็นความจงใจจะอยู่เป็นรัฐบาลรักษาการ” นายจตุพร ประเมินสถานการณ์
พร้อมย้ำบอกประชาชนว่า ที่นัดกันในวันที่ 16 ต.ค. ขอเลื่อนออกไปก่อน เพื่อรอคำวินิจของศาล รธน.และปัญหาน้ำท่วมได้ผ่อนคลาย เราขออยู่ในโลกความเป็นจริง เรารอได้ จะไม่รีบทวนความรู้สึกของ ประชาชน เนื่องจากเวลาและสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยต่อการนัดเคลื่อนไหว”
นายนิติธร กล่าวว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ต้องสู้ด้วยจิตวิญญาณ และด้วยเนื้อแท้กันจริงๆ จนมีความรู้สึกว่า อุดมการณ์ที่มุ่งมั่นเป็นสิ่งกินได้ ทำได้ การต่อสู้ที่ผ่านมาเมื่อปี 2557 เรียกร้องปฏิรูปประเทศก็ถูกตัดตอนไปด้วยรัฐประหาร (รปห.) แต่ผู้นำบริหารขณะนี้ไม่ดำเนินการในสิ่งนี้ จึงนำไปสู่อาเพศของสังคมตามมา ทั้งการก่อหนี้สินให้ประชาชนมากมาย เกิดความอดอยาก ยากจน เกิดความชะงักงันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ด้วยปรากฎการณ์หลายอย่างจึงทำให้ประชาชนต้องอดทน ใช้สติ ความรู้ เพราะการต่อสู้รอบนี้ไม่ได้เรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปประเทศ แต่ต้องการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะนวัตรกรรมการเมือง การปกครองในการเข้าสู่อำนาจของประเทศอย่างเป็นจริง มีกติกาเป็นธรรม ดังนั้น จึงเลื่อนนัดเคลื่อนไหว 16 ต.ค.นี้ออกไปก่อน เนื่องจากจำเป็นให้ความเคารพต่อความรู้สึกประชาชนที่กำลังสูญเสียจากเหตุฆาตกรรมหมู่และภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่
“เราจึงให้ความเคารพต่อความจริงของประชาชน เราควรเคารพต่อความรู้สึกของประชาชนที่สูญเสีย และทำในสิ่งที่เราทำได้ก่อน ขอบอกประชาชนใจเย็นและในช่วงนี้เราจะไปช่วยเหลือประชาชนตามกำลังงบประมาณของเราและแรงของเรา โดยเรากำลังคิดอ่านกันว่า จะหาข้าวของเครื่องใช้เพื่อไปดูแลพี่น้องได้รับผลกระทบจากอุทกภัย”
ประเทศไทยต้องมาก่อน