“โฆษกพรรค”เผย ปชป .เตรียมความพร้อม เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ เตรียมบุคลากรพร้อม 400 เขตเลือกตั้ง ปรับนโยบายให้เข้ากับสภาพสังคม-เศรษฐกิจ-การเมืองในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.65 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของพรรค ในการเตรียมการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งว่าในส่วนของพรรคเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในส่วนของนโยบายพรรคที่มีการเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับสภาพของสังคม เศรษฐกิจ การเมืองในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายที่ดีที่ได้ทำสำเร็จมาแล้วมากมายก็จะสานต่อเพิ่มเติมให้ดียิ่งขึ้น เชื่อว่านโยบายที่จะประกาศในการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนจะให้ความสนใจเป็นอย่างมากแน่นอน
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของว่าที่ผู้สมัครรับเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคได้เตรียมบุคลากรไว้เกือบครบทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง ยังมีอีกบางเขตที่มีผู้สนใจสมัครหลายคนก็จะมีกระบวนการขั้นตอนของพรรคในการคัดเลือกตัวผู้สมัครก็เป็นไปตามกระบวนการข้อบังคับและกฎหมายพรรคการเมือง มั่นใจว่าจะมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีความรู้ ความสามารถครบทุกเขตอย่างแน่นอน
นายราเมศ กล่าวตอนท้ายว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคได้ย้ำกับสมาชิกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาชั่วครั้งชั่วคราวแต่ พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง การทำงานที่ได้รับมอบหมายในทุกหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลก็ทำงานเต็มที่บนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริต ผลการทำงานที่เป็นประจักษ์ว่าความสำเร็จในแต่ละนโยบายเกิดขึ้นเพื่อความยั่งยืนของประชาชนและประเทศ ประชาชนจะทราบดี และเชื่อว่าสิ่งสำคัญเหล่านี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน
รวมไปถึงการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ หัวหน้าพรรคเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หาเสียงบนพื้นฐานสุจริต
”ขณะนี้ในทุกส่วนของพรรคก็ได้เตรียมการเพื่อรองรับการเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบ ในส่วนของคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส. ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ มีการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมรองรับตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ในการคัดเลือกผู้สมัคร ในส่วนของคณะกรรมการกฎหมายของพรรค ขณะนี้ได้เร่งทำความเข้าใจให้ความรู้ในเรื่องหลักกฎหมาย กฎ ระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องให้กับสมาชิก สาขา ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจให้มากที่สุด และเพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งด้วยความสุจริตต่อไป”