วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“บิ๊กตู่”วอนวันนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโทษใคร “ถ้าโจมตีกันจะยิ่งสร้างความไม่เข้าใจ”
- Advertisment -spot_imgspot_img

“บิ๊กตู่”วอนวันนี้ไม่ใช่เวลาจะมาโทษใคร “ถ้าโจมตีกันจะยิ่งสร้างความไม่เข้าใจ”

นายกฯวอนวันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษใครกันไปกันมา ถ้าโจมตีกันไปกันมาก็ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจ เรื่องน้ำท่วม ย้ำว่าพื้นที่ไม่ใช่พื้นที่ราบเรียบทั้งหมด พื้นที่บางพื้นที่เป็นพื้นที่ต่ำ อยากให้ทุกคนมองภาพเดียวกัน

วันที่ 24 ต.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสิงห์บุรีว่า เป็นห่วง และต้องการลงพื้นที่มาเพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ให้เห็นด้วยตาจริงๆ เพราะทุกวันนายกฯ ติดตามผ่านทางเจ้าหน้าที่รายงานมาอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเกิดพายุโนรูและร่องความกดอากาศ ทำให้ฝนตกเพิ่มมากขึ้น ฝนตกตลอด รวมถึงน้ำที่สะสมในพื้นที่ และส่วนหนึ่งน้ำต้องระบายมาจากทางเหนือไหลผ่านแม่น้ำแต่ละสาย ลงมาสู่แม่น้ำสายล่าง ซึ่งเมื่อระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักล้น บวกกับน้ำในพื้นที่ที่มีอยู่แล้ว มันก็จะต้องเอาออกมาอย่างนี้  เราต้องมาดูว่าจะพยายามลดตรงนี้ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ดังนั้นวันนี้เราจะต้องทำอย่างไรให้การระบายน้ำลดลง เพราะช่วงหลายวันที่ผ่านมาฝนตกน้อยลง ปริมาณน้ำที่ขังท่วมลดลง  แต่อย่างไรก็ตามตลอดเส้นทางตั้งแต่เหนือมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยา จนถึงกรุงเทพฯ ต้องแก้ปัญหาให้ปั๊มน้ำออกไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้มากขึ้น เพราะเดิมแม่น้ำเจ้าพระยาสูง วันนี้ปรับลดการระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง เราจะต้องมองภาพใหญ่คืออะไร มันเหมือนเส้นเลือดในตัวมนุษย์จากหัวไปถึงเท้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า  ถ้าน้ำข้างบนไม่เติม น้ำในพื้นที่ไม่มี  ระบบระบายน้ำทำงานได้และน้ำไม่ท่วมอย่างทุกปีที่ผ่านมา ปีนี้เราเจอทั้งพายุ เจอร่องความกดอากาศที่เติมเข้ามาระบายออกก็ไม่ได้ เว้นแต่มันล้น เราจะทำอย่างไรให้ตอนนี้เดือดร้อนน้อยที่สุด และวันนี้ก็ทราบว่ามีการปรับลดการระบายน้ำจากเหนือลดลงมาเป็นระยะแล้ว

“ผมคิดว่าวันนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษใครกันไปกันมา ผมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เขาทำงานเป็นเดือน เรื่องน้ำท่วม ย้ำว่าพื้นที่ไม่ใช่พื้นที่ราบเรียบทั้งหมด พื้นที่บางพื้นที่เป็นพื้นที่ต่ำ อยากให้ทุกคนมองภาพเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดช่วยกันทำงานเต็มที่ วันนี้ผมอยากทำความเข้าใจว่า สาเหตุน้ำท่วม คือ น้ำมันมาก และร่องมรสุมมากกว่า7ร่อง บวกกับพายุโนรู ฉะนั้นน้ำสะสมเต็มไปหมด เราจึงต้องพยายามดึงน้ำที่ล้น กลับไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้ และแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะต้องดูว่าการระบายน้ำลงสู่ทะเลจะทำอย่างไร ไม่ให้ได้รับผลกระทบ ดังนั้นวันนี้ไม่ใช่ให้คนนี้รับไป เพราะคนนั้นเดือดร้อนมาก ไม่ใช่ เราต้องบริหารอย่างสมดุล เพราะแน่นอนคนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเดือดร้อนมากที่สุด  และวันนี้การระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาดีขึ้น น้ำเหนือไม่ลงมาเติมมากนักทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงมาตรการการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาล วันนี้อยู่ในเงินทดลองจ่ายและงบประมาณที่รองรับไว้แล้ว วันนี้ตนบอกว่าอะไรที่ดำเนินการได้ก็เร่งดำเนินการ ในส่วนที่เหลือถ้ามีความจำเป็นจะต้องเพิ่ม รัฐบาลจะดูแลเตรียมงบประมาณตรงนี้ไว้ให้  แต่ต้องเร่งสำรวจ 

“วันนี้ดีใจเห็นชาวสิงห์บุรี ผมชื่นใจ ถึงแม้ว่าเขาจะน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เขาก็ยังให้กำลังใจผม ซึ่งผมก็ให้กำลังใจเขาเป็นร้อยเท่าพันทวี ผมคิดอย่างนี้ ถ้าเราทำงาน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันก็แก้ได้ปัญหา ผมรู้น้ำท่วมมันทรมาน ไปไหนมาไหนไม่ได้ เดือดร้อน สร้างความเสียหาย แต่เดี๋ยวเราจะช่วยด้วยการเยียวยา ผมย้ำไปแล้วอาทิตย์หน้าเรื่องทั้งหมดจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) อะไรที่อยู่ในระเบียบ กติกาและกฎหมาย จะเร่งดำเนินการให้ก่อน และอันไหนที่จะต้องเพิ่มเติมก็จะพิจารณาจากงบประมาณกลางเพิ่มเติมให้ วันนี้ดีใจที่ได้มาเยี่ยมชาวสิงห์บุรีอีกครั้งหนึ่ง และเห็นถึงความลำบากแต่วันนี้ทุกคนก็ยังสู้ เราต้องสู้”

นายกฯ กล่าวย้ำว่าเข้าใจหรือยังนายกฯไม่ได้อารมณ์เสีย เพียงแต่ว่ามาดูเพื่อที่รัฐบาลจะทำตรงไหนได้บ้าง หน้าที่มันคนละหน้าที่กัน แต่นายกฯ ก็ต้องบริหารให้ได้ผ่านกลไกที่มีอยู่แล้ว หลายอย่างวันนี้รัฐบาลก็มีปัญหาในเรื่อง เศรษฐกิจ สงครามต่างประเทศ และภูมิภาคพันกันไปหมด เราเพิ่งจะหลุดผลจาก โควิด-19 มา การท่องเที่ยวกำลังจะกลับมา ถ้าเรารักสามัคคีและเข้าใจกันทุกอย่างมันต้องดีขึ้น เราต้องเชื่อมั่นตรงนี้ นายกฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารเรื่องการเมือง เป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องไปด้วยกันให้ได้ เน้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้ และสิ่งที่พูดออกมาต้องทำได้จริงนั่นคือหน้าที่ของนายกฯ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ที่มาวันนี้อยากให้จับมือไปด้วยกัน และเป็นห่วงเป็นใย เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่มีความเดือดร้อน  เอาปัญหาประชาชนมาพูดก่อนว่าจะช่วยแก้อย่างไร  ถ้าโจมตีกันไปกันมาก็ยิ่งสร้างความไม่เข้าใจ ขณะเดียวกันการทำงานก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะระบบมันมีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนบอกว่าทุกอย่างครั้งนี้เป็นบทเรียนทางด้านชลประทาน และการแก้ปัญหาอุทกภัยน้ำท่วม ต้องมาทบทวนแผนที่มีอยู่ ตั้งแต่เราพูดย้อนไปตั้งแต่ปี 2561 และปี 2564 งบประมาณมหาศาลลงมา ก็ยังไม่เพียงพอและในปี 2565 ก็มีการตั้งงบประมาณไว้แล้วและปี 2566 และ ปี 2567 ก็เตรียมโครงการไว้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ทั้งเรื่องประตูน้ำเรื่องทำนบกั้น และวันนี้ก็ได้สั่งการให้รีบระบายน้ำและทำนบกั้นเพียงพอหรือไม่ มันขาดอีกเท่าไหร่ นายกฯ ลงพื้นที่มาเพื่ออย่างนี้ ถ้านายกฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ ก็ไม่เห็นภาพความเป็นจริง อย่างนี้เราสั่งการเร่งรัดได้ว่ามันควรจะทำอย่างไร ตรงนั้นตรงนี้ แต่ประเด็นสำคัญการจะทำโครงการอะไรก็แล้วแต่ ประชาชนต้องเห็นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญหากตั้งโครงการมาแล้วประชาชนไม่เห็นชอบ ก็ทำไม่ได้ นั่นคือความยากง่ายในการบริหารงานของเรา

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img