“สมคิด”นำทีมสร้างอนาคตไทย ลุยเยาวราชบ้านเกิด ฟื้นรำลึกถึงตอนยากลำยาก วันนี้เมื่อประสบความสำเร็จตั้งใจอยากสร้างโอกาสให้เท่าเทียมกันกับลูกหลาน พร้อมยืนยันจุดยืนพรรคไม่เป็นปรปักษ์กับใคร
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ร่วมกิจกรรม “คิด-ถึง-บ้าน” ณ เยาวราชบ้านเกิด…จุดเริ่มต้นชีวิตของ ดร.สมคิด เพื่อพบปะประชาชน ร้านค้า รวมถึงผู้ประกอบการในพื้นที่เยาวราช ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และประเทศไทย โดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคและประธานภาค กทม. และแกนนำคนอื่นๆของพรรคร่วมลงพื้นที่ด้วย
นายสมคิด กล่าวว่า เยาวราชเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ตนอาศัยอยู่ที่ตรอกเล็ก ๆ ในย่านนี้มาตั้งแต่เกิด ตนวิ่งเล่นและเติบโตที่นี่ ซึ่งชีวิตตนก็ไม่ต่างจากลูกหลานคนจีนทั่วไป ที่พ่อแม่มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน และมาตั้งรกรากทำมาค้าขายที่นี่ ซึ่งทำให้ตนหวนนึกถึงสมัยก่อนที่ตนและพี่น้องทั้ง 10 คนต้องนอนเรียงกันในห้องเล็ก ๆ เพราะความจนทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องดิ้นรน ที่เยาวราชทำให้ตนได้รู้จักการค้าขายและเรียนรู้ว่าความยากจน ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค หากเราขยัน อดทน ใฝ่รู้ แถมทำให้ได้เปรียบเพราะตนได้สัมผัสความยากจนมากับตัวเอง และเมื่อตนได้รับโอกาสที่ดีประสบความสำเร็จในชีวิตก็ไม่เคยลืมรากเหง้าของตนเอง วันนี้ตนกลับมาที่จุดเริ่มต้นของชีวิตอีกครั้งตั้งใจที่อยากสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันให้กับลูกหลาน
สำหรับกิจกรรม “คิด-ถึง-บ้าน” เริ่มต้นด้วย การเข้าสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่มูลนิธิเทียนฟ้า พร้อมพูดคุยกับประธานและกรรมการมูลนิธิฯ จากนั้น ได้พูดคุยผู้ประกอบการหลากหลายสาขาอาชีพในพื้นที่เขตสัมพันธวงศ์ และเขตพระนคร พร้อมแวะทานอาหารกลางวันที่ ร้านอุไร ห่านพะโล้ ถนนทรงวาด ที่เปิดมานานกว่า 60 ปี โดยเป็นร้านโปรดของ นายสมคิด จากนั้นขึ้นรถตุ๊กตุ๊กเพื่อเดินทางต่อไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางการลงพื้นที่เยาวราช มีการทักทายพูดคุยกับประชาชนและร้านค้าริมถนนเยาวราช โดยมีผู้เข้ามาขอจับมือ ถ่ายรูป และพูดคุยกับ นายสมคิด ตลอดทาง
จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึง อนาคตจะทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทย ที่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้สร้างไว้นั้น มีจุดยืนที่ชัดเจน คือ ไม่เป็นปฏิปักษ์กับใคร มาเพื่อเป็นความหวังของชาวบ้าน เป็นทางเลือกใหม่ ดังนั้น ไม่มีคำว่า ไม่ชอบใคร และไม่ทำงานกับใคร เรามองว่า ทุกคนตั้งใจดีที่จะทำงานเพื่อชาติทั้งสิ้น และเป็นกลางจริงๆ เราต้องการพลังของสังคมเพื่อช่วยกันฟื้นฟูและสร้างอนาคตใหม่ให้กับประเทศ ขอให้ทุกพรรคคัดเลือกคนดีๆเข้ามา และร่วมมือกัน น่าจะพอแล้วกับการทะเลาะเบาะแว้ง การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่มีประโยชน์เลย ตนอายุ 70 แล้ว กลับมาช่วยเขาตั้งพรรค ไม่ได้หวังจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หวังที่จะทำพรรคการเมืองที่ดีสักพรรคหนึ่ง มองไประยะยาวให้เป็นสถาบันการเมือง
นายสมคิดยืนยันว่า พรรคนี้จะไม่ซื้อเสียงเด็ดขาด เพราะใครที่ซื้อเสียง มถือว่าแค่กลัดกระดุมเม็ดแรกก็ผิดแล้ว และจะไม่มีทางแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย นี่คือ หลักการของพรรค ใครขัดขืนไม่ทำตามสิ่งที่ว่า ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญ