“สาทิตย์” เชือดนิ่มๆ “อนุทิน” รู้แก่ใจ “กัญชาเสรีสุดขั้ว” แล้ว ไล่ไปถามหมอผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มเอาไม่อยู่แล้ว ติงกมธ.ไม่เน้นเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แถมเปิดให้ทำอย่างอื่นได้ โต้รับงานปชช. มีลูกหลานติดกันงอมแงม แนะ “ภูมิใจไทย” ใจกว้างยอมรับมีปัญหา อย่ากลบเกลื่อนกลายเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ยันมารยาททางการเมืองต้องฟังผู้อื่นด้วย รับกม.อาจไม่ทันอายุรัฐบาลนี้
วันที่ 3 พ.ย. 65 ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาว่าการออกมาคัดค้านร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … รับงานของใครมาหรือไม่ ว่า ตนแปลกใจกับท่าทีของนายอนุทินมาก ขอย้ำจุดยืนของพรรคว่ากัญชาต้องใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ไม่ใช่เพื่อนันทนาการ เพราะขณะนี้สถานการณ์กัญชากลายเป็นกัญชาเสรีสุดขั้ว ตั้งแต่มรการปลดล็อคออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 จึงขอเรียกร้องให้มีกฎหมายที่ดีรองรับ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่ปัญหาคือกฎหมายที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)จัดทำอยู่ไม่เน้นเรื่องประโยชน์ทางการแพทย์ แต่เปิดช่องให้นำไปใช้นันทนาการ และยังสามารถบิดเบือนนำไปใช้ในด้านอื่นๆได้อีกมาก
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ปัญหาใหญขณะนี้นายอนุทินคงรู้อยู่แล้วว่ากัญชาเสรีสุดขั้วไปแล้ว สามารถหาซื้อได้ง่าย เราจึงเสนอให้นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดดีหรือไม่ ในฐานะส.ส.เรามีหน้าที่ทำกฎหมาย และทำหน้าที่แทนประชาชนในการติดตามนโยบาย หากเห็นสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ต้องช่วยกันติ เติม แต่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
“ที่ถามผมว่ารับงานใครมาล้มกฎหมายกัญชา ผมแปลกใจ ก็ต้องบอกว่ารับงานจากประชาชนที่มีลูก มีหลานติดกัญชา มากกว่าอย่างอื่น ต้องยอมรับว่ากฎหมายที่อยู่ในสภาขณะนี้มีโอกาสที่จะพิจารณาไม่ทันในอายุรัฐบาลนี้ หากกฎหมายกัญชาผ่านในสัปดาห์นี้ ก็ต้องส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณา ซึ่งมีเวลาพิจารณา 60 วั กว่าจะกลับมาสภาฯอีกในช่วงเดือนม.ค.66 ถ้าเกิดวุฒิสภามีความเห็นไม่ตรงกับส.ส.ก็จะต้องตั้งกรรมาธิการร่วมกันก็ต้องใช้เวลาอีก เพราะฉะนั้นก็ต้องทำกฎหมายให้ดีที่สุด และปิดสูญญากาศการใช้กัญชาให้ได้ ดังนั้นขอฝากไปถึงนายอนุทินให้ไปถามคนในกระทรวงสาธารณสุข หรือหมอว่าคนผู้ป่วยจิตเวชมีเยอะมากขณะนี้รู้สึกอย่างไร และหสทางแก้ไขดีกว่า เราอย่าทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องการเมืองแล้วทะเลาะกันระหว่างพนรคร่วใรัฐบาลเลย ผมไม่ทีเจตนา แต่ทำหน้าที่แทนประชาชนที่สะท้อนปัญหาที่ประชนมีความวิตกกังวลเท่านั้น” ส.ส.ตรัง กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้านโยบายจะเป็นเรื่องใหญ่และเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคที่จะขับเคลื่อน หากร่างพ.ร.บ.กัญชาไม่เสร็จ ก็อาจจะนำไปสู่การจัดทำนโยบายที่จะใช้ในการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่ากัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น เราไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีสุดขั้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทยมองว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามทำประเด็นกัญชาให้เป็นปัญหาทางการเมือง นายสาทิตย์ กล่าวว่า กัญชามีปัญหาในตัวอยู่แล้ว เพราะมีทั้งประโยชน์และโทษ ขณะนี้เรากำลังหยิบปัญหาที่ไม่ถูกพูดถึงขึ้นมา เราต้องใจกว้างและยอมรับว่าสิ่งที่ทำอยู่มีปัญหาและต้องหาทางแก้ไข อย่าไปกลบเกลื่อนเรื่องนี้ให้กลายเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เพราะคนที่ต้องรับกรรมคือลูกหลานและประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าไม่ใช่กัญชาเสรี แต่เป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์นั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า เห็นด้วยหากใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ แต่ขณะนี้ไม่ใช่ เพราะกฎกระทรวงสาธารณสุขคุมไม่อยู่และตำรวจจับไม่ได้ ขายกัญชากันเกลื่อนเมือง หาซื้อง่ายตามข้างถนนโดยไม่ต้องใช้บัตรประชาชน
เมื่อถามว่านายอนุทิน ระบุว่าหลังจากการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจมีการเปลี่ยนขั้วไม่ขอจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ไกลไปที่จะพูดถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ขณะนี้เอาปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ส่วนที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพมติคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)นั้น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล ระบุว่ามติวิปรัฐบาลในเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะภายในวิปรัฐบาลก็ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาจึงขอว่าอย่าหยิบความเห็นไม่ตรงกันนี้ในสภาไปขยายผลให้เป็นความขัดแย้งทางการเมืองเพราะกัญชาเป็นปัญหาต่อสังคม และเรื่องความขัดแย้งไม่ถูกว่าเป็นเรื่องน่ากังวล
เมื่อถามถึงการถามหามารยาททางการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ กล่าวว่า มารยาททางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลคือการเดินตามแนวทางที่ได้ร่วมตกลงกันไว้ และหากเห็นสิ่งไม่ถูกต้องเป็นโทษ และไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน ก็ต้องติเตือนและต้องฟังกันบ้าง