“ผ่องศรี” โบ้ยมติวิป 3 ฝ่ายให้ “ชวน” นัดประชุมวันศุกร์สางวาระค้างให้ทันก่อนปิดสมัย ชี้ตามข้อบังคับรายงานกมธ.ไม่เคยลงมติ ตำหนิส.ส.หากร่วมมือกันไม่ควรเสนอโหวต ไล่วิปหารือกันเหตุสภาล่ม
วันที่ 6 พ.ย.65 น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานการเมือง ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีส.ส.ไม่ครบองค์ประชุม ในการ ประชุมสภาเมื่อวันที่4พ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญวิป 3 ฝ่าย มาร่วมกันหารือกันเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ก่อนจะมีการประชุมสภาฯนัดแรกของสมัยประชุมนี้ นายชวน ได้ชี้แจงให้ทุกฝ่ายรับทราบว่า สมัยประชุมนี้เป็นสมัยประชุมสุดท้ายของสภาฯชุดนึ้แล้ว เหลือเวลาอยู่ไม่มากแต่มีเรื่องค้างวาระพิจารณาอยู่จำนวนมาก จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันบริหารเวลา และขอนัดประชุมวันศุกร์เพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยปกติวันพุธจะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมาย วันพฤหัสจะเป็นวาระกระทู้ทั้งกระทู้สด กระทู้ทั่วไปและญัตติต่างๆ โดยวันศุกร์ที่ผ่านมาได้นัดประชุมเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นวาระพิจารณารายงานของกรรมาธิการคณะต่างๆ โดยในการหารือวันนั้นวิป3ฝ่ายต่างเห็นพ้องต้องกันตามที่นายชวนเสนอ โดยรับว่าจะไปแจ้งให้สมาชิกแต่ละฝ่ายแต่ละพรรคทราบเพื่อให้ความร่วมมือ
น.ส.ผ่องศรีกล่าวว่า ต่างทราบดีว่ามีรายงานของกรรมาธิการชุดต่างๆที่สภาฯมอบหมายให้ไปศึกษาในเรื่องต่างๆ รอรายงานต่อสภาเพื่อรับรองและส่งต่อไปยังรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากไม่นัดวันประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ รายงานเหล่านี้ก็จะค้างวาระอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสมัยประชุมนี้เป็นสมัยประชุมสุดท้ายของสภาฯชุดนี้แล้ว หากไม่เร่งพิจารณาวาระต่าง ๆ ที่ค้างอยู่จำนวนมาก ก็อาจจะสูญเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ โดยนายชวนเข้าใจดีว่าสมาชิกต้องใช้เวลาลงพื้นที่พบปะประชาชน แต่งานประชุมสภาก็เป็นหน้าที่สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเช่นกัน ท่านจึงเน้นย้ำเสมอว่า เวลาเป็นของมีค่า ได้ขอความร่วมมือจากสมาชิกทุกฝ่ายให้ช่วยกันบริหารเวลา ซึ่งวาระเพื่อรับทราบรายงานต่างๆนั้น โดยปกติสมาชิกจะเข้าใจกันและให้ความร่วมมือเพื่อให้การประชุมมีความต่อเนื่องไม่มีการเสนอให้ลงมติหรือไม่มีการเสนอนับองค์ประชุม แต่เมื่อมีสมาชิกเสนอขึ้นมาก็เป็นสิทธิท่านนั้นตามข้อบังคับ ซึ่งวิปทั้งสองฝ่ายจะต้องประสานงานกับสมาชิกของแต่ละฝ่ายเพื่อขอความร่วมมือร่วมกัน เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้หารือร่วมกันมีข้อตกลงร่วมกันแล้ว
“รายงานของกรรมาธิการเป็นของสมาชิกทุกฝ่าย ไม่ใช่รายงานของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล งานของสภาฯจึงจะก้าวหน้าต่อไปได้ หากทุกฝ่ายบริหารเวลาและร่วมมือกัน หากวาระที่ค้างอยู่จำนวนมากมีจำนวนลดลง จนประเมินว่าจะพิจารณาได้ทันในช่วงเวลาอายุของสภาฯที่เหลืออยู่แล้ว ประธานสภาก็อาจไม่ต้องนัดประชุมเพิ่มเติมในวันศุกร์ได้ แต่ที่นัดเพิ่มเติมเพราะมีความจำเป็น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อสภาของประชาชน”นางผ่องศรี กล่าว
นางผ่องศรี กล่าวต่อว่า การเกิดเหตุสภาฯไม่ครบองค์ประชุมในวันศุกร์ผ่านมาถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิดขึ้น วิปทั้งสองฝ่ายจึงควรประสานงานกันให้ดี จึงขอชี้แจงทำความเข้าใจกับสมาชิกฯ และสื่อสารถึงประชาชน โดยขอความร่วมมือสมาชิกส.ส.ทุกท่านได้ร่วมกันทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติให้สมบูรณ์ ใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า เป็นประโยชน์ต่อประชาชนร่วมกัน เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ พึงพอใจและภาคภูมิใจที่จะเห็นผู้แทนฯของตนทำหน้าที่ในสภาฯด้วยความรับผิดชอบโดยเฉพาะในสมัยประชุมสุดท้ายของสภาฯชุดนี้