“รังสิมา” รับหวั่นไหวเลือกตั้งครั้งนี้ ซุ่มทำโพลฟังประชาชนก่อนย้ายพรรค แง้มมีทุก “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน” ทาบทาม ปัดเล่นตัว บอกถ้าไป “เพื่อไทย” คงลำบากใจ-โดนประชาชนไล่ ชี้ไม่กังวลหากสอบตก เตรียมอาชีพขายหอยตัวเองรองรับ
วันที่ 10 พ.ย.65 ที่รัฐสภา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมย้ายพรรคว่า มีมาชวนทุกพรรค ตนไม่ได้เล่นตัว แต่ต้องถามประชาชน เพราะการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ไม่เหมือนเดิม เหมือนที่เราเป็นพยาบาลมา 20 กว่าปี มีคนไข้ทุกวัน แต่คนไข้ก็ทยอยเสียชีวิตกันไปทุกวัน ตายไปทุกวัน สักวันนึง 10 คนๆหายไปเยอะนะคะ แล้วคนรุ่นใหม่มา ก็มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ เขาก็ดูแต่โซเชียล เขาไม่ได้ดูความเป็นจริงว่าเราทำงานเป็นอย่างไร ผลงานเรามีอะไรอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราก็หวั่นไหว
น.ส.รังสิมา กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เชื่อว่าการซื้อเสียงคราวหน้าจะรุนแรงมาก พอเราไปถามประชาชนว่าคราวหน้าจะเลือก รังสิมา ไหม ทุกคนก็บอกว่าจะเลือก เพราะเขากลัวโดนยิงตาย เราไม่ได้ไปยิงเขาหรอก แต่เขากลัว ถ้าเราไปถามเองเราก็ได้คำตอบที่ไม่ตรง เราเลยต้องไปจ้างทำโพล ลงสมัครมา 6 ครั้ง เป็นครั้งแรกที่หวั่นไหวที่สุดเลย กลัวสอบตก แต่ตกก็ไม่เป็นไรก็ยอมรับสภาพนะ ถ้าประชาชนไม่เลือกก็เลิกค่ะมีคนถามเล่นๆ นะ นี่พูดเล่นนะ ประชาชนถามว่า รังสิมา ถ้าคุณสอบตกจะไปทำอะไร ฉันก็ขายหอยฉันสิคะ ขายได้นี่ ก็มีอาชีพเตรียมไว้แล้ว
น.ส.รังสิมา กล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดของโพลคือถามว่า ถ้ายังอยู่พรรคประชาธิปัตย์ประชาชนจะยังเลือกหรือไม่ ถ้าไม่เลือกจะให้ไปอยู่พรรคไหน ไม่เลือกเพราอะไร แล้วถ้าไปอยู่พรรคใหม่จะเลือกเพราอะไร ต้องทำโพลอย่างละเอียดทุกพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาให้ได้ตรงจุด เมื่อก่อนเราใช้ไสยศาสตร์ ปัจจุบันเราต้องใช้วิทยาศาสตร์
เมื่อถามว่า มีพรรคอื่นในใจหรือไม่ น.ส.รังสิมา กล่าวว่า ก็ดีทุกพรรค ยกเว้นเงื่อนไขคือพรรคที่ไม่เอาสถาบันฯ เราไม่เอา โดยถ้าผลโพลบอกให้อยู่พรรคประชาธิปัตย์ออกไปก็จะอยู่ หรือถ้าไปพรรคอื่นแล้วดูจะชนะ เราก็จะไป จึงไม่สามารถบอกได้ว่าจะไปพรรคใด เว้นแต่ว่าถ้าโพลบอกให้เราไปพรรคที่ไม่เอาสถาบันฯ แล้วจะชนะ เราก็เลิก ยอม
เมื่อถามว่า ผลโพลจะออกมาเมื่อใดนั้น น.ส.รังสิมา กล่าวว่า คาดว่าน่าจะภายในปีนี้ แต่ไม่อยากจะเร่งรัดเพราะกลัวข้อมูลจะคลาดเคลื่อน ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ โดยตนได้ทำความเข้าใจกับหัวหน้าพรรคไว้แล้วว่า หากคราวนี้ผลโพลออกมาว่าถ้าอยู่พรรคเดิมแล้วเสี่ยงจะแพ้ ก็ต้องขออนุญาตย้ายก่อน แล้วคราวหน้าก็ค่อยไปๆ มาๆ ได้ เพราะถ้าประชาชนไม่เลือกเรา เราก็ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็เข้าใจ และบอกให้ทนๆ ไปก่อน ตนก็เสียดายเหมือนกันถ้าต้องจากพรรคประชาธิปัตย์ไป แต่การเมืองก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ต้องเอาตัวรอด คราวที่แล้วก็เกือบไม่รอด
“เงินไม่ใช่ปัจจัยหลักสำหร้บเรา เพราะลงมาสมัครมา 6 ครั้ง ไม่เคยซื้อเสียงเลย ซองก็ไม่เคยใส่ หรีดก็ไม่วาง แต่เราอยากให้ประชาชนรู้ว่าเลือก ส.ส.มาทำอะไร ถ้าเลือกคนซื้อเสียงก็จะเข้ามาโกง ให้เลือกคนมาทำงาน แต่ถ้าเขาให้เงินให้รับไว้ เพราะเงินไม่ใช่งู ไม่กัด แต่เวลาเลือกอย่าไปเลือก ให้คนซื้อเสียงมันหมดตูดล้มละลาย จะได้เลิกไปสักที ขณะยังไม่ได้พบน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรากฏว่าจะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยตั้งใจจะนัดพบกันวันนี้เพื่อพูดคุยถามเหตุผล เชื่อว่าคนที่ย้ายไปมีเหตุผลทุกคน เราไม่ว่ากัน ใครย้ายไปแล้วรอดเราก็ขอให้กลับมาเจอกันทุกคน”น.ส.รังสิมา กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคที่มาทาบทามนั้นมีพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ น.ส.รังสิมา กล่าวว่า มี เพราะ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เป็นแนวร่วม กปปส. มาด้วยกัน โดนคดีมาด้วยกัน นอกจากนี้ที่ทาบทามยังมีพรรคอื่นๆ เช่น ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย และเกือบทุกพรรค ดังนั้น ถ้าโพลออกมาอยู่พรรคไหนแล้วชนะ ก็จะไปพรรคนั้นเลย รวมทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้านก็มีมาทาบทาม ที่เคยมีปัญหากันมาก็ให้อภัยไม่โกรธกัน แต่เราก็ต้องมีจุดยืน ยกตัวอย่างเช่น พรรคเพื่อไทย เราเคยไปไล่เขา ถ้าต้องไปอยู่กับเขาเราก็ลำบากใจ และคงเดินในตลาดไม่ได้ คงถูกแม่ค้าเอาน้ำสาดไล่ออกจากตลาดแทบไม่ทัน เพราะเป็นขั้วการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกันมานาน ต้องดูเหตุดูผล แต่การทำหน้าที่ก็เต็มความสามารถ แต่ถ้าประชาชนไม่เอาเราก็ต้องตามใจประชาชน