วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight'ณัฏฐพล'ย้ำ'ทยา'ตั้งใจชิงผู้ว่ากทม. ปัดต่อรอง-ถ้าลงไม่ได้จะลาออก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ณัฏฐพล’ย้ำ’ทยา’ตั้งใจชิงผู้ว่ากทม. ปัดต่อรอง-ถ้าลงไม่ได้จะลาออก

“ณัฏฐพล” ย่องเงียบพบ “นายกฯ” ปัดไม่ได้คุยเรื่อง “ทยา” ย้ำด้วยมารยาททางการเมือง เมื่อ “ภรรยา” ตั้งใจทำงานการเมือง ต้องการลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ก็ต้องเรียนผู้ใหญ่ในพรรคทราบ ชี้เป็นเรื่อง “พปชร.” จะตัดสินใจ พร้อมปฏิเสธไม่มีการต่อรองถ้าลงไม่ได้ จะลาออก

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยขึ้นทางด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า ใช้เวลานั่งรอประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเข้าพบหารือใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นนายณัฐพลให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากทม. โดยปฏิเสธว่า นายกฯไม่ได้เรียกมาพูดคุยเรื่องดังกล่าว ซึ่งการลงสมัครผู้ว่ากทม.ของภรรยา เป็นการเสนอตัวให้ประชาชนคนกรุงเทพฯเลือกแค่นั้น ไม่ได้มีอะไร เพียงแสดงเจตจำนงสนใจที่จะเป็นตัวเลือก ส่วนแผนงานที่จะทำให้ได้รับการเลือก ก็ต้องมานั่งดูว่าจะไปทางไหน สำหรับตนมีความเป็นพรรคอยู่ ก็ต้องระมัดระวังในการขับเคลื่อน เพราะมีเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องระมัดระวังพอสมควร

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.แล้วหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ในเมื่อคนในครอบครัวเสนอตัว ตนก็ต้องเรียนผู้ใหญ่ในพรรค เพื่อขออนุญาต ถือเป็นมารยาททางการเมือง ส่วนความเหมาะสมที่พรรคจะเลือกใคร ก็เป็นเรื่องของพรรค เพราะเป็นเรื่องทางการเมืองโดยตรง พรรคก็ต้องมองถึงผลประโยชน์ของพรรคสูงสุด ว่าใครจะลงในนามพรรค หรือไม่ลงในนามพรรค จะเป็นประโยชน์สูงสุดของพรรคของประเทศ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพปชร. ได้พูดคุยกันแล้ว เป็นการเตรียมขออนุญาต ซึ่งเป็นมารยาทที่ต้องทำ เพราะภรรยาของตนเองที่เป็นนักการเมือง สนใจเสนอตัวเป็นผู้สมัครลงผู้ว่ากทม. ซึ่งพล.อ.ประวิตรไม่ได้ว่าอะไร ก็รับทราบ

เมื่อถามต่อว่า ช่วงที่ผ่านมามีชื่อของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประกาศลงสมัครผู้ว่ากทม.อย่างชัดเจน ซึ่งสังคมมองว่า พรรคพปชร. ให้การสนับสนุนจะเป็นการแย่งคะแนนกันหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า ถ้าเอาข้อเท็จจริงมาพูดกัน การสนับสนุนเป็นการพูดกันในสื่อมวลชนเฉยๆ พรรคยังไม่ได้มีการประชุม ซึ่งจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการสรรหา การเลือกตั้งขนาดใหญ่แบบนี้ พรรคจะต้องมีกระบวนการสรรหาหรือกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)

เมื่อถามอีกว่า แสดงว่ายังตอบไม่ได้ว่าจะลงในนามอิสระ หรือในนามพรรค นายณัฏฐพล กล่าวว่า ในเรื่องของพรรค ถ้าเป็นพรรคพปชร. วันนี้ไม่ได้เกี่ยวกัน ทางพรรคเขาจะต้องดูความเหมาะสมและวิธีการของพรรคในการสรรหาผู้สมัครกทม. ทางคณะกรรมการบริหารและกรรมการสรรหาจะเป็นผู้กำหนดว่าจะสรรหาอย่างไร ซึ่งยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน เราเป็นพรรคการเมืองใหญ่ ต้องมีขั้นตอนในการพิจารณาพอสมควร การที่คนใดคนหนึ่งบังเอิญเป็นภรรยา อย่างกรณีของตนที่มีการเสนอตัวมา ก็ขึ้นอยู่กับว่าทางพรรคจะพิจารณาอย่างไร

“ต้องดูถึงพื้นฐานด้วยไม่ใช่อยู่ๆ ผม จะผลักดันภรรยามาเป็นนักการเมือง มันไม่ใช่ เขาเป็นนักการเมืองอยู่แล้ว แค่บังเอิญอยู่ในครอบครัวเดียวกันเท่านั้น และในกทม.ก็อาจจะมีครอบครัวแบบนี้ไม่ได้เยอะมาก”นายณัฏฐพลกล่าว

เมื่อถามต่อว่า มีกระแสข่าวว่าพร้อมที่จะลาออก ถ้าพรรคพปชร.ไม่สนับสนุนภรรยาลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม. นายณัฏฐพล กล่าวว่า ไม่ใช่ ไม่จริงและดูในข่าวมีหลายประเด็นที่ไม่ถูกต้อง ตนอยู่ในพรรคพปชร. ต้องเคารพในกติกาของพรรค ขณะเดียวกันก็ต้องคำนึงถึงมารยาทในทางการเมือง ต้องรอความชัดเจนของกรรมการสรรหาพรรคว่าจะพิจารณาอย่างไรหรือจะพิจารณาใคร ซึ่งอาจจะมีการพิจารณานางทยาด้วย หากพรรคตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่ง ตนก็ต้องดูความเหมาะสมในเรื่องของมารยาท

ถามว่า จะทำให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า คงไม่ น่าจะคิดกันไปเอง ส่วนในพรรคจะมีความเห็นหรือความเหมาะสมว่าใครควรจะลงในระดับท้องถิ่น ก็เป็นความแตกแยกที่ปกติอยู่แล้วในการเสนอตัวของผู้สมัครทุกระดับก็ต้องมีมากกว่า 1 คน แต่พรรคก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img