วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ไทยสร้างไทย''รุกนโยบายด้านอาหาร-ท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้ 6 หมื่นลบ.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ไทยสร้างไทย”รุกนโยบายด้านอาหาร-ท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้ 6 หมื่นลบ.

“ไทยสร้างไทย” คึกคัก เปิดตัว 4 ขุนพล เจ้าของร้านอาหารแบรนด์ดัง ลงสมัคร สส. พร้อมผลักดัน ธุรกิจอาหารในไทย ปั้น “Thailand World Food Hub” ให้โด่งดังระดับโลก รุกนโยบายด้านอาหารและท่องเที่ยว ตั้งเป้าเพิ่มยอดรายได้จาก 400,000 ล้านบาท เป็น 600,000 ล้านบาท

คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้าง นำทัพไทยสร้างไทย ระดมสุดยอด ขุนพลด้านอาหารทั้ง 4 คนเป็นเสาหลักปั้นนโยบายด้าน อาหารและการท่องเที่ยวให้ดังไกลไปทั่วโลกนำทีมโดย “เชฟบุญธรรม” หรือ บุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟเบอร์ต้นๆของประเทศไทยเจ้าของรางวัลสุดยอดเชฟกระทะเหล็ก และเจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น Honmono และร้านในเครือรวม 35 สาขาทั่วประเทศ

ตามด้วย “เจตุบัญชา อำรุงจิตชัย” หรือ “หนุ่ย ลูกชิ้นจัง” ผู้ก่อตั้งเฟรนไชส์ Street Food “ลูกชิ้นจัง” มากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ เจ้าของรางวัลชนะเลิศ SME Provincial Champions และ Thailand Franchise Award
อีกหนึ่งขุนพลไม่แพ้กัน “รณกาจ ชินสำราญ” ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์อาหารญี่ปุ่นชื่อดัง “MAGURO” และแบรนด์ในเครือรวม 16 สาขาในกรุงเทพฯ ที่กำลังเตรียมตัวจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2566


ขุนพลสุดท้าย “สรเทพ โรจน์พจนารัช” หรือ “สตีฟ” เจ้าของกลุ่มร้านอาหารอย่าง Steve Group ที่ปักหมุด Location Prime Area ในย่านเมืองเก่า ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้ง 5 สาขา รวมถึงธุรกิจโรงแรม, Hostel และคาเฟ่ อีกมากมาย


คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่าพรรคไทยสร้างไทย เล็งเห็น ศักยภาพของธุรกิจอาหารของไทยว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก ที่เป็นจุดมุ่งหมายที่นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศต้องการมาเยือนมาชิมให้ได้ซักครั้งในชีวิต เนื่องจากประเทศไทยมีชื่อเสียง มีเสน่ห์ทางด้านอาหารริมทางเป็นอย่างมาก รวมไปถึงธุรกิจอาหารในประเทศที่มีมูลค่าสูงถึง 4 แสนกว่าล้านบาท ที่เป็นตัวขับเคลื่อน GDP ประเทศอย่างมหาศาล

นายเจตุบัญชา กล่าวว่า หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล เรามีแผนจะกระตุ้นธุรกิจอาหารจาก 4 แสนล้านขึ้นเป็น 6 แสนล้านได้อย่างเป็นรูปธรรม หนึ่งในแผนนั้น คือการเร่งจัดตั้ง “Thailand World Food Hub” หรือเรียกง่ายๆว่า “Thai Food Hub”ตามจังหวัดหัวเมืองต่างๆเพื่อเป็น ศูนย์ธุรกิจแลกเปลี่ยนของอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็นอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจอาหารในประเทศไทยที่ต้องการจะเปิดสาขาในต่างประเทศ สามารถทำได้โดยง่าย ไม่ต้องลงไปวางระบบเอง

ด้านนายบุญธรรม ภาคโพธิ์ กล่าวเสริมว่า ศูนย์ “Thai Food Hub” นี้จะอำนวยความสะดวกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นจัดหาสถานที่เช่า จัดการด้านกฎหมายในประเทศนั้นๆ จดลิขสิทธิ์ รวมไปถึงการหานักลงทุนท้องถิ่น เรียกได้ว่าครบวงจร ขอแค่สินค้าของคุณดีมีคุณภาพและอยากเติบโต สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

เช่นเดียวกับ นายสรเทพ มองว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทย จะเป็นผู้นำล่าอาณานิคมด้านอาหาร นำอาหารไทยซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไปอยู่ทุกที่ในโลก เป็นอาหารที่คนทั่วโลกต้องจดจำและรู้จัก ไม่ใช่ คนไทยจะเห่อบริโภคแต่อาหารหรือ แบรนด์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างเดียว กลับกัน ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องภูมิใจในอาหารไทย จับใส่ระบบที่ดีและมีมาตรฐาน ผ่านช่องทาง “Thai Food Hub”ซึ่งเป็นนโยบายของ พรรคไทยสร้างไทย ที่มั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน และจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากมายอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ด้านนายรณกาจ ชินสำราญ ฝากสื่อสารไปยังหน่วยงานภาครัฐ ต้องเร่งเพิ่มการประชาสัมพันธ์ ให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาชิม มาช้อปอาหารนานาชาติที่ประเทศไทย เพราะไทยเป็นแหล่งอาหารนานาชาติ ที่อร่อยที่สุดและมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารอินเดีย อาหารญี่ปุ่น อาหารมุสลิม อาหารยุโรปและยังมีอาหารไทยหลากหลายภูมิภาคอีกด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

ว่าด้วยเรื่อง พัฒนา“พุทธมณฑล”

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img