“ประยุทธ์”ฯ เปิดอก พูดนอกสคริปต์ ให้รู้นายกฯ ไม่ใช่คนใจร้าย เผย ไหว้พระขอพรทุกวันให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ลั่นให้เชื่อผม ผมอยู่มาหลายปี
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 25 พ.ย.ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการบริหารจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดและการเลือกสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ “ร่วมสืบสาน…อุดมการณ์ที่ผ่านมา…ด้วยศรัทธาสู่การเลือกตั้งสภาของเกษตรกร” โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมงานด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลและตนเป็นห่วงคือทำอย่างไรให้เกษตรกรมีรายได้พอเพียงเพื่อดำรงชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะเราจึงต้องปรับเปลี่ยนไป วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้มาพบกันและที่ผ่านมาตนไม่เคยทอดทิ้งท่าน อยู่ที่ว่าเราจะร่วมมือกันได้อย่างไร ทุกครั้งที่ตนไปต่างจังหวัดตนจะหาข้อมูลแล้วไปพูดคุยหารือเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ตนทราบถึงปัญหาดีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างวันนี้ต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ในเรื่องของการเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ในหลายจังหวัดตนได้พบว่าแต่ละจังหวัดมีปัญหาเราจึงต้องแก้ไปทีละเปลาะ ซึ่งต้องร่วมมือกัน และมีแนวคิดร่วมกัน ตนค่อนข้างกังวลที่บางครั้งพูดกันไม่ได้

เราจึงต้องปรับวิธีการ และปรับหลักคิดต่างๆ ให้สอดคล้องกับปัญหา เช่น ปัญหาหนี้สินปัญหาแหล่งน้ำ และปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกรเนื่องจากเรามีพื้นที่ไม่มากนัก ดังนั้นเราจึงมีกลไก จัดหาที่ดินให้ประชาชน เพราะเราไม่สามารถให้ทุกคนได้มันเป็นไปได้ยาก วันนี้จึงขอให้ติดตามกันในเรื่องนี้ ในส่วนของภัยธรรมชาติ และโรคระบาด ทำให้รู้ว่าโลกใบนี้ไม่ใช่โลกใบเดิมของเรา รัฐบาลจึงต้องหาทางแก้ปัญหา ซึ่งเราได้ให้การช่วยเหลือเยียวยา ออกมาตรการระยะสั้น แลละระยะยาว จากต้นทางถึงปลายทาง ไปบ้างแล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า การตลาดวันนี้ก็เป็นตลาดออนไลน์และขายตรง เป็นภาพใหญ่ที่ทุกคนต้องเข้าใจเพื่อให้เราสามารถแข่งขัน มีความเข้มแข็งและพึ่งพาตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เรากังวลที่สุดคือการแก้ปัญหาความยากจน ทั้งในครัวเรือน และอาชีพต่างๆ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยดูแลปัญหาเรื่องนี้อยู่แล้ว วันนี้เราทุกคนมีหนี้มีสิน ไม่มีความสุขหรอกตนรู้ เราจึงจะต้องแก้ปัญหาหนี้สินและทำให้ราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น เรามีเกษตรกรจำนวนมากที่จะเข้าไม่ถึงในเรื่องเหล่านี้ เราจึงต้องรวมกลุ่มกันให้ได้ เรื่องต่างๆ ที่เสนอกันมาตนก็รับไปพิจารณาไปแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ในอาเซียน เราเป็นหนึ่งในโอกาส โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้เพราะตอนนี้ในภูมิภาคต่างๆ มีความขัดแย้งสูง การรวมกลุ่มของประเทศต่างๆ ภูมิภาคต่างๆ มีปัญหาหมด เราต้องลดของเราให้ได้ โอกาสจึงจะมาถึง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังที่จะควบคุม นอกจากนี้ เราต้อวคำนึงถึงการสร้างเกษตรสมัยใหม่ สมาร์ทฟาร์มมิ่ง และเกษตรอัจฉริยะ เพื่อทำทุกอย่างให้ครบวงจร บ้านเราไม่ขาดแคลน แต่เราจะทำอย่างไรให้มูลค่าอาหารของเรามีมูลค่าสูงขึ้นในตลาด เราจึงต้องช่วยกันว่าอะไรทำได้บ้าง รวมถึงต้องมีการรักษาสิ่งแวดล้อม
“เราควรจะภูมิใจที่อยู่ในแผ่นดินผืนนี้ สุวรรณภูมินี่แหละ ของเราภูเขาไฟไม่มี แต่ระเบิดกันเอง ความคิดไง ทำให้โทษใครไม่ได้ เราจะต้องรักแผ่นดินผืนนี้ ที่เป็นแผ่นดินของคนไทย” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ทำทุกอย่างให้ลดลงไปบ้างแต่ไม่เป็นศูนย์ ถ้าประเทศไทยสันติมีความสงบ ทุกอย่างจะมาที่ประเทศไทย วันนี้ลองส่องกระจกดูว่ารอยยิ้มของเรายิ้มสวยหรือไม่ ถ้าเราไม่ยิ้ม พลังงานลบจะออกจากตัว ถึงไม่ชอบก็ยิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวก็คุยกันได้เอง วันนี้กลับไปก็ยิ้มให้ภรรยายิ้มให้สามีด้วย
นายกฯ กล่าวว่า ตนขอให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติครั้งนี้เป็นไปโดยสงบเรียบร้อย และสุจริต สิ่งสำคัญที่สุดคือให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในวงจรภาคการเกษตร ทุกอย่างมีก้าวแรกเสมอเราต้องก้าวให้ไกลและไปให้ถึง ที่เขาเขียนสคริปต์มาไม่ได้เอาพูดเลย (หัวเราะ) เพราะวันนี้อยากเปิดอก และให้รู้ว่านายกฯ ไม่ใช่คนใจร้าย
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ การเลือกตั้งสภาสมาชิกเกษตรกรแห่งชาติ ก็เป็นการเลือกตั้งตามกฎหมาย และคิดว่าน่าจะเรียบร้อย ส่วนงบประมาณสำหรับจัดการเลือกตั้งสภาเกษตรฯ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็อนุมัติไปแล้ว โดยให้กระทรวงมหาดไทยดูแล และกฎหมายก็มีแล้ว ตนจึงขออวยพรให้คนที่ลงเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรฯ ประสบความสำเร็จทุกคน
“ผมไหว้พระขอพรพระแม่คงคา พระแม่ธรณี และพระสยามเทวาธิราชทุกวัน เพื่อให้ทุกอย่างในประเทศไทยเดินไปข้างหน้าไปให้ได้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้จิตใจผมอยู่ถึงวันนี้ได้ การทำงานก็คือการทำงาน ถ้าปราศจากความร่วมมือ ไม่มีสำเร็จสักอัน เชื่อผม ผมอยู่มาหลายปีผมรู้ว่ามันมีปัญหาเยอะพอสมควรกับความไม่เข้าใจ ก็ขอให้ทุกคนทำความเข้าใจ เราต้องร่วมมือและจับมือกันเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน ไม่มีใครทำสำเร็จด้วยคนคนเดียว หรือโดยประเทศใดประเทศหนึ่งประเทศเดียว” นายกฯ กล่าว