“สมบูรณ์” เศร้าจำใจทิ้ง “ปชป.” ซบ “รทสช.” เผย” บอกเป็นเด็กดีแต่ไม่มีที่ยื่น บอก “นายหัวชวน” ให้กำลังใจ ขอทำหน้าเลขาประธานต่อ ลั่นขอพิสูจน์ตัวเองหักโพลเก๊
วันที่ 8 ธ.ค.65 นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย เปิดเผยว่า วันนี้ เมื่อเวลา 15.30 น. ตนได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยในวันพรุ่งนี้(9 ธ.ค.) ตนจะเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เหตุผลที่ตัดสินใจเพราะต้องการความชัดเจนทางการเมืองให้กับตัวเอง ก่อนที่จะมีการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่ผ่านมาตนทำตัวเป็นเด็กดีของพรรคมาตลอด ไม่เคยสร้างปัญหาให้หนักใจ มีแต่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนและพรรค แต่เมื่อไม่เห็นความดีและไม่มีพื้นที่ให้ยืนก็ต้องไปหาพื้นที่เพื่อต่อสู้เลือกตั้งก็เท่านั้น ก่อนที่ตนจะตัดสินใจก็ได้แจ้งกับนายชวน และนายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารจังหวัดตรัง ในฐานะที่ตนเคารพรักและถือว่าเป็นผู้ให้กำเนิดทางการเมือง เพราะชักนำให้ตนเข้าสู่การเมืองตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทั้งสองท่านก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ตนต้องไปอยู่พรรคอื่น โดยนายชวนยังได้โทรศัพท์มาคุยกับตนระหว่างที่เดินทางไปยื่นใลาออกกับกกต. ว่าเห็นใจมากเพราะไม่มีที่ให้ยืนจริงๆ และยังมีเวลาในการสมัครสมาชิกพรรค แต่ตนได้เรียนว่าต้องการทำงานทางการเมืองให้ชัดเจน แต่ก็ยังจะทำงานในตำแหน่งเลขานุการประธานสภาฯต่อไป เพราะคนละส่วนกัน
เมื่อถามว่าการตัดสินใจไปร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะได้รับการติดต่อจากนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช. หรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ก็ได้มีการพูดคุยกัน โดยนายไตรรงค์ก็เข้าใจถึงปัญหาความอึดอัดที่ตนได้รับจากพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายพีระพันธุ์ก็บอกว่ายินดีต้อนรับเข้าพรรค แต่อยากให้ตนตัดสินใจให้ชัดเจน เพราะเวลาเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว เขาจะได้วางแผนทางการเมืองได้ถูก
“ก่อนจะตัดสินใจลาออกจากปชป. ผมรู้เสียใจจนต้องหลั่งน้ำตา เพราะผูกพันกับพรรคมานาน แม้จะออกไปแล้วแต่ก็ยังรักและรู้สึกดีกับหลายคนในปชป.อยู่ และไม่คิดที่จะเผาบ้านเก่า ยอมรับว่าออกไปแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่มีความสุขขึ้น เพราะเขาให้เกียรติเรามากกว่า และต้องการที่จะพิสูจน์ให้ผู้นำพรรคเห็นว่า ผลโพลที่บอกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าผมจะได้แค่20% นั้น พอถึงเวลาแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ แต่ถ้าได้มากกว่าก็ถือเป็นการยืนยันว่าผมทำได้จริง”นายสมบูรณ์กล่าว
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลาออกของนายสมบูรณ์ไม่ถือว่าเป็นปัญหาเลือดไหล แต่เพราะเขาไม่มีพื้นที่ยืนจริงๆ เนื่องจากผู้บริหารพรรคตัดสินใจให้คนอื่นลงสมัครส.ส.ใน เขต4 จ.ตรังแทนนายสมบูรณ์แล้ว จึงเป็นธรรมดาของนักการเมืองที่ต้องไปสังกัดพรรคอื่นเพื่อให้ตนเองได้ลงสมัครส.ส. ส่วนจะมีคนอื่นออกจากพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะยังมีเวลาก่อนที่จะถึงกำหนดวันย้ายพรรค
