“เฉลิม” ร่ายยาว 10 นาที เสนอไอเดีย 6 วิธีแก้ปัญหายาเสพติด แนะรัฐบาลไม่ควรมีนโยบายเชิญชวนประชาชนเอาพืชเสพติดไปปลูกตามสำนักงาน จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าที่ทำการพรรคยังปลูกพืชเสพติดได้ เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้ผมมีความคิดและความเข้าใจว่าทางรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหายาเสพติด แต่ต้องยอมรับว่าแผนงานผิดพลาดอาจจะมาจากเจ้าหน้าที่และความหย่อนยานในหลายภาคส่วนของทางราชการจึงทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดมาแพร่อิทธิพลในประเทศไทย เวลาไม่มากขอเวลาสั้นๆ การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ผมได้เคยปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีมหาดไทยและรองนายกรัฐมนตรี ต้องใช้วิธีเด็ดขาดผสมผสานกับการหาแนวร่วมปราบอย่างเดียวไม่ได้ต้องป้องกัน ส่วนการรักษาเป็นหน้าที่อยู่แล้ว
วิธีการแก้ปัญหา
1.ต้องหาวิธีการทุกอย่าง อำนาจรัฐภายในประเทศและต่างประเทศ ต้องสกัดสารตั้งต้นที่เรียกว่า สารซูโดให้ได้ เพราะสารชนิดนี้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดทุกชนิด
2.ต้องปิดชายแดนอย่างเข้มแข็งที่เรียกว่า Seal border ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทำอยู่ แต่ยังไม่เพียงพอ จึงทำให้ยาเสพติดทะลักเข้ามาจำนวนมาก เอาไทยเป็นศูนย์กลางจำหน่ายในประเทศไทยและส่งขายต่างประเทศ
3.ต้องสร้างแนวร่วม โดยให้หน่วยราชการเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตามชายแดนมาประกอบกำลังช่วยกันแก้ไข
4.ต้องตัดวงจรการลักลอบส่งเงินตราไปต่างประเทศที่เรียกว่าระบบโพยก๊วน ต้องป้องกันให้เข้มแข็ง โดยจัดตั้งองค์กรและส่วนงานที่มีอยู่แล้วให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
5.จะต้องดำเนินการกวาดล้างเชิงลึก โดยจัดอาสาสมัครซึ่งคัดเลือกมาจากประชาชนโดยทั่วไปร่วมมือแจ้งเบาะแส และช่วยทางราชการหาข่าว
6.ต้องมีมาตรการเข้มงวดกับราชการทุกฝ่าย ส่วนเรื่องอื่นๆนับว่าเป็น
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ค่อยๆ ทำไป
ผมใช้เวลาสั้นๆ 10 นาที เขียนบทความนี้ เพราะผมมีความห่วงใย โดยดูจากตัวเลขสมัยไทยรักไทยปราบปราม ยาบ้าเม็ดละ 500 บาท สมัยผมเป็นรองนายกในนามพรรคเพื่อไทย ผมได้รับมอบในงานชิ้นนี้ ปรากฎว่าเม็ดละ 300 ปัจจุบันนี้ 4 เม็ดร้อย ผมไม่ได้ตำหนิข้าราชการผู้เกี่ยวข้อง ท่านทำกันหลายส่วนดีอยู่แล้ว แต่ขาดระบบ ผมเขียนบทความนี้จากจิตใจอันบริสุทธิ์และพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามยาเสพติดต้องตรึงชายแดนให้ได้ โดยใช้ทหารและตำรวจชุดพิเศษทำงานร่วมกัน
บทความที่กล่าวมานี้เป็นเพียงความคิดของผม ซึ่งอาจจะเป็นส่วนเล็กๆ หากพรรคได้เป็นรัฐบาลผมจะเสนอเป็นส่วนหนึ่งให้พรรคนำไปปฏิบัติ ต้องถือว่าเป็นนโยบายเรื่องแรก
*หมายเหตุ รัฐบาลไม่ควรมีนโยบายเชิญชวนประชาชนเอาพืชเสพติดไปปลูกตามสำนักงาน จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าที่ทำการพรรคยังปลูกพืชเสพติดได้ เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง