“ราเมศ” สวนกลับ “สงวน” พูดไม่มีหลักจมปลักขี้เลน การันตี “ชวน” ทำหน้าที่เป็นกลาง ตำหนิส.ส.ไร้ความรับผิดชอบ
วันที่ 20 ธ.ค.65 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย พาดพิงการทำงานของรัฐสภาไปในทางที่เสียหายว่า หลักการเรื่องนี้ บุคคลที่พูดต้องเข้าใจการทำงานของรัฐสภาก่อน หลายเรื่องหากไม่เข้าใจการสื่อสารก็ผิดเพี้ยนไปได้ ยิ่งนายสงวนเป็นผู้อาวุโสแล้วจำเป็นที่จะต้องสื่อสารให้อยู่ในหลักการเพราะรุ่นลูกหลานจับตามองอยู่ รัฐสภาในสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นประธาน ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ยึดหลักการ เป็นกลางตรงไปตรงมา ไม่มีใบสั่ง และไม่มีใครสั่งได้ ประชาชนชื่นชมทั่วทั้งประเทศทุกคนทราบดี นายสงวนอาจจะฝังใจมาตั้งแต่สมัยเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและเป็นประธานรัฐสภา มีคนที่คอยสั่งการให้สภาทำตามใบสั่งของฝ่ายบริหาร ออกกฎหมายล้างผิด แก้รัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง ใช้เสียงข้างมากข่มเห่งเสียงข้างน้อย เป็นเผด็จการรัฐสภาของจริง หลักฐานชัดเจนอยู่ในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนในเรื่องการรายงานการใช้จ่ายเงินกู้ของรัฐบาล เป็นไปตามขั้นตอน มีกฎหมายมาตราไหนที่บังคับให้ประธานรัฐสภาสั่งให้รัฐบาลทำตามได้ นายสงวน ในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ถ้าเรื่องนี้หาทางออกไม่ได้ว่าจะให้รัฐบาลมารายงานต่อรัฐสภาได้อย่างไร ก็ถือว่าฝ่ายค้านด้อยประสิทธิภาพ
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนกรณีการลงมติในมาตรา 9/1 ของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเข้าชื่อเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. …. เรื่องนี้ไม่น่าเชื่อว่า ส.ส.อย่างนายสงวนจะไม่รู้หลัก ขณะที่มีการถกเถียงกันถึงการลงมติที่สมาชิกมีความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนก็มีการยกมาพูดในสภาขณะนั้น แต่นายชวนในฐานะประธานสภาก็ได้ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรลงมติว่าจะให้มีการลงมติใหม่หรือไม่ เป็นเรื่องของสมาชิกในสภา สุดท้ายก็มีมติให้ลงมติใหม่ หลักการก็เท่านั้นเอง ส่วนที่บอกว่าองค์ประชุมไม่ครบทำไมถึงลงมติได้อย่างไรนั้น ก่อนที่จะถามคำถามนี้ควรไปตรวจดูหลักฐานก่อนพูด การที่กล่าวหาประธานรัฐสภา ไม่เป็นกลางเอาใจรัฐบาล ต้องเรียนว่า คำว่ายึดหลักการไม่ใช่ใช้ปากพูดออกมาอย่างเดียว หลักการที่ดีต้องดูในตอนปฏิบัติ ทุกครั้งนายชวนได้ปฏิบัติให้ทุกคนเห็นในเรื่องยึดมั่นหลักการและมีความเป็นกลาง ถ้ายังจำได้การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนายกรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ ศาลมีคำสั่งไม่รับคำร้อง ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าเรื่องดังกล่าวยุติแล้วคำวินิจฉัยผูกพันรัฐสภา ห้ามไม่ให้มีการอภิปราย ประธานรัฐสภาคนที่ชื่อชวน หลีกภัย คนนี้วินิจฉัยว่าเป็นคำสั่งศาลไม่ใช่คำวินิจฉัย ไม่มีผลผูกพันรัฐสภา ฝ่ายค้านสามารถอภิปรายญัตติการอภิปรายทั่วไป ตามญัตติที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านขณะนั้น ได้เสนอเพื่อสอบถามกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ในตอนนั้นทำไมไม่มีใครโวยวายบ้างว่าไม่เป็นกลาง นายสงวนกรุณาไปดูรายงานการประชุมรัฐสภาวันที่ 18 กันยายน 2562 ก็จะพบคำตอบ และอีกหลายเรื่องที่การวินิจฉัยของประธานรัฐสภาไม่มีคำว่าเกรงใจใครว่ากันตามหลักการ ส่วนที่มากล่าวหาว่าเป็นไม้หลักปักขี้เลนนั้น ตนไม่อยากไปโต้ตอบในประเด็นนี้เพราะที่พูดโจมตีนายชวนทั้งหมดชาวบ้านรู้ว่า ผู้พูดนั้น “ไม่มีหลักจมปลักขี้เลน”
“รัฐสภาไม่มีชีวิต คนที่เข้ามาทำหน้าที่ต่างหากที่ต้องตระหนักในหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ช่วยกันเพื่อเป็นเกียรติเป็นศักดิ์ศรีให้กับสถาบัน แม้แต่เรื่ององค์ประชุม หาก ส.ส. ยังละเลยไม่รับผิดชอบคงไม่ได้ ฝ่ายค้านก็เช่นกันหากอยู่ในห้องประชุมก็ควรกดแสดงตนเพราะในสภาคือเรื่องของบ้านเมืองต้องช่วยกันเพื่อให้สภาได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศอย่างแท้จริง”นายราเมศ กล่าว