“ศรีสุวรรณ” บุกกกต.ร้องสอบ “ส.ส.พปชร.” ทำกราฟิกปฏิทินคู่ “บิ๊กตู่” ใส่โลโก้ “รทสช.” ผิดกม.พรรคการเมือง-เลือกตั้ง หรือไม่
วันที่ 22 ธ.ค.65 ที่ศูนย์ราชการฯ สำนักงานกกต.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อกกต. ขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณีมี ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ จัดทำปฏิทินปีใหม่เป็นรูปคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มีข้อความรวมไทยสร้างชาติ ผงาดบนเวทีโลก พร้อมใส่ตราสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวกับ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และหรือ พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสื่อมวลชนได้รายงานว่ามีการแชร์รูปภาพและข้อความของ นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. ที่ประกาศตัวชัดว่าพร้อมย้ายตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมต.กลาโหม ไปยังพรรค รทสช.เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีฯ สมัยหน้า ได้จัดทำปฏิทินที่เป็นรูปตัวเองคู่กับนายกฯ โดยมีแบล็คกราวน์เป็นสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติ และพลุไฟ พร้อมข้อความภาพระบุว่า “สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2566” อยู่ด้านบนรูปคู่ ส่วนใต้รูปคู่มีตัวอักษรระบุว่า “รวมไทยสร้างชาติ ผงาดบนเวทีโลก” ขณะที่ด้านล่างสุดของภาพมีข้อความว่า “สุขสันต์กับปี 2566 ขอให้ปีใหม่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง พร้อมทั้งความสุข และความอิ่มอกอิ่มใจนะครับ”
การนำภาพของนายกรัฐมนตรีและตนเองมาทำกราฟฟิกคู่กัน พร้อมกับนำโลโก้ของพรรคการเมืองอื่นมาใส่ไว้ด้วยเพื่อทำปฏิทินหรือป้าย โดยอาจไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของภาพและพรรคการเมืองเจ้าของสัญลักษณ์ อาจขัด พรป.พรรคการเมือง 2560 และขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ 3) 2565 ที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกประกาศเมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 รวมทั้ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ในส่วนของมาตราที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.บางส่วน ที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองจะต้องปฏิบัติตาม ในช่วง 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.65 เป็นต้นมา
กรณีดังกล่าวแม้นายสายัณห์จะออกมาแถลงภาคเสธว่า เป็นเพียงแต่เตรียมการไว้แล้วส่งให้เพื่อนดูแต่อาจหลุดไปนั้น ยังไม่น่าเชื่อถือ แต่อาจชี้ให้เห็นถึงเจตนาที่จะเผยแพร่กราฟฟิกปฎิทิน/ป้ายไวนิล เข้าสู่ระบบออนไลน์ในโซเชียลมีเดียเพื่อให้หลุดออกไปในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มีการเผยแพร่รูปภาพและข้อความดังกล่าวในระบบโซเชียลมีเดีย โดยไม่จำเป็นต้องจัดพิมพ์ออกมาแจกจ่ายหรือนำไปติดตั้งก็ได้ ซึ่งสามารถสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เลือกตั้งของตนได้แล้ว เพราะการหาเสียงปัจจุบันใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์กันแล้ว และมีกฎหมายของ กกต.ควบคุมดูแลอยู่ ข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักพอ สมาคมฯจึงจำเป็นต้องมาร้องให้ กกต.ไต่สวนเอาผิดต่อไป