กรมชลฯยันงบ 9,500 ล้านบาท สร้างโครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำหนองค้อ มีความโปร่งใส ระบุใช้งบลงทุนมากกว่า บริษัท อีสต์วอเตอร์ จำกัด เดิมตั้งไว้ 8,000ล้านบาท
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรณีโครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จังหวัดชลบุรี เป็น 1 ในโครงการตามแผนยุทธศาสตร์โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2560 เพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ขยายตัวอย่างน้อยร้อยละ 5 ต่อปี
พื้นที่เป้าหมายหลักประกอบด้วยจังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา เมื่อมีการพัฒนาตามแนวทางของ EEC แล้ว คาดว่าแนวโน้มการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การอุปโภคบริโภคจะขยายตัวเติบโตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ 3 จังหวัดดังกล่าวมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี และผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561 เรื่องการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการพัฒนาเพื่อรองรับโครงการ EEC ได้มีมติเห็นชอบในหลักการแผนการพัฒนาเพื่อรองรับ EEC ในระยะ 10 ปี
โครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จังหวัดชลบุรี เป็นแผนงานหนึ่งในแผนหลักการพัฒนาและจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก ที่ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ศึกษาวางแผนหลักไว้ มีลักษณะเป็นการสูบผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ผ่านระบบท่อมายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ แล้วไหลด้วยแรงโน้มถ่วงมายังอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ เนื่องจากต้องการน้ำของจังหวัดชลบุรีมีปริมาณความสูงกว่าน้ำต้นทุนในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องผันน้ำจากนอกพื้นที่เข้ามาเพิ่มเติม
สำหรับค่าลงทุนโครงการที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 8,000 ล้านบาท (การศึกษาเมื่อปี 2560) โดยบริษัทอีสต์วอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็น 9,500 ล้านบาท (การศึกษาเมื่อปี 2563) โดยกรมชลประทาน นั้น เนื่องจากได้มีการปรับปรุงแก้ไขแบบและเทคนิคการก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ในปัจจุบันที่มีการใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อลดผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง และการคิดคำนวณราคาค่าก่อสร้างของโครงการได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด
โครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี ปีละประมาณ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร (สามารถขยายเป็น 130 ล้าน ลบ.ม.เพื่อรองรับการเติบโตของ EEC ในปี 2580 ได้โดยใช้ระบบท่อเดิม) เพื่อการอุปโภคบริโภค การอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ดังนั้น ผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวมของโครงการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อคือ การเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ GDP ขยายตัว คิดเป็นมูลค่า 5,104.53 ล้านบาทต่อปี ให้อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) เท่ากับ 35.42% มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) เท่ากับ 18,391.91 ล้านบาท และอัตราผลตอบแทนต่อต้นทุน (B/C Ratio) เท่ากับ 3.15 ซึ่งเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุน
ด้านที่ประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2564 ได้เห็นชอบแผนการดำเนินงาน (Road Map) โครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ จังหวัดชลบุรี แล้ว ซึ่งกรมชลประทานจะเร่งดำเนินการตาม Road Map ดังกล่าวต่อไป
ในส่วนของข้อกังวลใจเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการโครงการฯต่างๆ นั้น กรมชลประทาน ขอยืนยันว่า ในการดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำทุกโครงการฯได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ด้วยการยึดหลัก ธรรมาภิบาล สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้การดำเนินงานโครงการฯพัฒนาแหล่งน้ำหรือพัฒนาระบบชลประทานต่างๆของกรมชลประทาน มีประสิทธิภาพและก่อประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด.