“ปธ.ป.ป.ช.” เร่งสางคดีจริยธรรมนักการเมือง ชี้ปมป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านต้องรอบคอบ ระบุยังเป็นการกล่าวหา หากมีมูลต้องตั้งกก.สอบ
วันที่ 9 ม.ค.2566 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนต่างๆ โดยเฉพาะจริยธรรมนักการเมือง และส.ส.ในช่วงที่ใกล้การเลือกตั้งว่า ขณะนี้มีการดำเนินการตามที่มีการส่งเรื่องเข้ามา เช่น กรณีการถือครองที่ดิน เกี่ยวกับ ภ.บ.ท.5 และสปก. ก็จะดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย และบางเรื่องจะส่งต้นสังกัดไปตรวจสอบถึงคุณสมบัติ โดยการไต่สวน หากข้อมูลไม่เพียงพอก็ต้องส่งข้อมูลไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ถ้ากรณีใดเข้าข่ายละเมิดจริยธรรม ทางป.ป.ช.จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน
“ป.ป.ช.ให้ความสำคัญในกรณีผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพราะเป็นบุคคลสาธารณะจะทำให้รวดเร็ว ถ้าเรียงตามลำดับก็จะใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นป.ป.ช.จะทำงานใน 2 ระบบ คือถ้ามีการส่งเรื่องมาที่เป็นเรื่องเก่าก็เร่งรัดให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหม่และกระทบกับประชาชน กระทบสังคม ป.ป.ช.ก็จะพยายามเร่งรัดและทำให้รวดเร็ว ถ้าเรื่องใดทำไม่ถูกต้อง”ประธานป.ป.ช. กล่าว
เมื่อถามถึงกรณียื่นสอบการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ ที่มีวงเงินถึง 33 ล้านบาท พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สังคมสนใจ โดยในขณะนี้ได้มีการขอข้อมูลไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หากทำรวดเร็วมากเกินไปอาจจะไม่รอบคอบ ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ยังอยู่ในขั้นของการถูกกล่าวหา แต่ถ้าหากมีมูล มีพยานชัดเจนก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน ตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง