วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 28, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“เสรี”ปัดชงแก้รธน.เอื้อ“บิ๊กตู่” ยันเป็นแค่ผลการศึกษา อย่าร้อนตัว
- Advertisment -spot_imgspot_img

“เสรี”ปัดชงแก้รธน.เอื้อ“บิ๊กตู่” ยันเป็นแค่ผลการศึกษา อย่าร้อนตัว

“เสรี” ปัดชงแก้ปมวาระนายกฯ 8 ปีเอื้อ ปย. “บิ๊กตู่” ยันเป็นเพียงผลการศึกษาของกมธ. พัฒนาการเมือง อย่าร้อนตัว ทุกพรรคได้อานิสงค์ ยังไม่รูิรทสช.ได้กี่คะแนน มั่นใจร่างแก้รธน.”เพื่อไทย” ไม่ผ่านแน่

วันที่ 16 ม.ค.2566 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนของวุฒิสภา กล่าวว่า การแก้มาตรา 158 เรื่องวาระดำรงตำแหน่ง8 ปีของนายกรัฐมนตรี มาตรา 159 เรื่องคุณสมบัติของนายกฯต้องมาจาก ส.ส. และมาตรา 272 เกี่ยวกับยกเลิก ส.ว. ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงประเด็นในการศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้เจาะจงหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเป็นเพียงประเด็นการศึกษา และนำสู่สาธารณะเพื่อแสดงความเห็นการวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองและประชาชน โดยยังไม่ได้มีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญในเวลานี้ ซึ่งเห็นว่ากระบวนการแก้ไม่ได้ดำเนินการได้โดยง่ายเพราะมีขั้นตอนตามที่เงื่อนไขกำหนดกำหนดไว้ทั้งเสียงวุฒิสภาเห็นชอบ 1 ใน 3 รวมถึงเสียงของพรรคการเมืองฝ่ายค้านร้อยละ 20

นายเสรี กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนั้นแก้ยาก และหากต้องการแก้ให้สำเร็จ ทุกฝ่ายต้องหันหน้าพูดคุยกันตกลงกัน สร้างความสามัคคีปรองดอง ในมวลหมู่การเมืองและประชาชน เพราะไม่สามารถที่จะเสนอเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ และการเสนอต้องมีความตั้งใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง หากมีการพูดจาเสียดสีด่าทอให้ร้าย หรือเอาแต่ประโยชน์ของพรรคการเมืองตัวเองก็คือการทะเลาะกัน จะไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้เลยซักประเด็นเดียว ในกระบวนการของการจะแก้ให้เป็นประโยชน์กับพล.อ.อกประยุทธ์ เป็นไปไม่ได้เลย และก็ไม่รู้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ซึ่งไม่รู้พรรคไหนจะได้เสียง ส.ส. จำนวนเท่าไหร่

นายเสรี กล่าวว่า เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นตัดอำนาจ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และ คุณสมบัตินายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. ตามร่างแก้ของพรรคเพื่อไทยนั้น จะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เพราะยังมีความเห็นไม่ตรงกัน และข้อเสนอสำหรับการหาเสียงของพรรคการเมือง สร้างความด่างพร้อยให้วุฒิสภา สร้างปัญหาให้รัฐบาล แต่เป็นสิทธิของแต่ละพรรคการเมืองหากจะนำเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแก้วาระ 8 ปีนายกฯ เป็นนโยบายหาเสียง เพราะสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือก เพราะก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ แม้นโยบายหาเสียงค่าแรง 600 บาท ทำได้ในปี 2570 ก็ยังนำมาเสียงได้ อยู่ที่กลยุทธ์ของแต่ละพรรค และไม่ห่วงว่า ส.ว.จะถูกมองเป็นส่วนหนึ่งกลยุทธ์หาเสียงของพล.อ.ประยุทธ์ และมองว่าทุกพรรคการเมืองได้ประโยชน์เช่นเดียวกัน และไม่ใช่ว่าพ.อ.ประยุทธ์ได้ประโยชน์คนเดียว เพราะหากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้เป็นนายกก็สามารถที่จะเป็นได้ยาวเช่นกัน

“พอเสนอประเด็นนี้ คนก็คิดว่าจะให้พล.อ.ประยุทธ์ก็หยิบยกขึ้นมาเล่นงานเขา และเลือกตั้งครั้งหน้ายังไม่รู้เลยว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ พรรคของพล.อ.ประยุทธ์จะได้ ส.ส. กี่คนก็ไม่รู้ จะไปกังวลทำไมถ้ากังวลเท่ากับว่ากลัว หรือคิดว่าจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดหรอ” นายเสรีกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img