“ภท.” บุกกทม.! “อนุทิน” ยกทัพลงพื้นที่ ชุมชนโรงปูน ช่วย “ประเดิมชัย” หาเสียง สโลแกน “พูดแล้วทำ” ทุกนโยบาย ไม่ได้มาเล่นๆ แต่พร้อมทำจริงแน่นอน
วันที่ 22 ม.ค.2566 ที่ ลานชุมชนโรงปูน เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม(เพลง) ว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหา และพูดคุย นำเสนอนโยบายที่จะเป็นประโยชน์กับชุมชนและคนเมืองหลวง
ทั้งนี้ตลอดการลงพื้นที่ได้รับความสนใจจากประชาชนต่อเนื่อง มีการเข้ามาทักทายกับนายอนุทิน นายประเดิมชัย และทีมงาน พร้อมแจ้งปัญหา ไปจนถึงข้อเสนอแนะ ในการพัฒนาพื้นที่ มีการขอถ่ายรูป ตบอดทาง โดยนายอนุทิน ใช้เวลาลงพื้นที่ประมาณ 2 ชั่วโมง
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น นี่เป็นการลงพื้นที่ กทม.ครั้งแรก รู้สึกยินดีมากที่มาพบปะประชาชน คุยกับคนกรุงเทพฯ สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเน้นย้ำคือ พรรคภูมิใจไทยเข้ามาหาเสียงในพื้นที่กรุงเทพฯ เรามาอย่างคนที่ทำจริงและคนที่ทำเป็น ทุกนโยบายมีการศึกษามาแล้วขอย้ำว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ กับกรุงเทพ ทางพรรคภูมิใจไทย เราต้องการจะเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน และเราไม่เคยมองข้าม กทม. ตอนที่ กทม.ต้องการวัคซีนโควิด-19 เราเปิดศูนย์ที่บางซื่อให้เลย อะไรที่สามารถช่วยกันได้หากไม่ผิดกฎหมายเราพร้อมทำ อย่ามองว่าเราเป็นคนอื่นไกล พรรคภูมิใจไทยพร้อมทำงานให้ปะชาชนแน่นอน
นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทยทุกท่านมีความต้องการรับใช้พี่น้องประชาชน อย่างนายประเดิมชัย หากสังเกตการทำงานของท่านๆ อภิปรายในสภาแต่เรื่องที่เป็นสาระ พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์กับพี่น้อง ตนเห็นการทำงานของท่าน แล้วท่านเห็นการทำงานของพรรคภูมิใจไทย เราพูดแล้วทำ ต่างจังหวัดได้อะไรมากมายจากพรรคนี้ ท่านกับเราก็ใจตรงกัน สิ่งดีๆ แบบนี้ ควรเกิดในกรุงเทพฯ บ้าง ปัญหาควรจะต้องได้รับการแก้ไข จึงมาร่วมงานกัน ก็หวังว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้โอกาสในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ประกอบไปด้วย ตั๋ว One Day Pass การกำหนดค่าโดยสารสาธารณะ รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาท ตลอดวัน ไม่เกิน 50 บาท ส่วนรถไฟฟ้า เริ่ม 15 บาท ตลอดสายไม่เกิน 40 บาท ,นโยบายพักหนี้ 3 ปีหยุด ต้นปลอดดอกเบี้ยคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท ,การตั้งศูนย์ฟอกไตฟรี โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ฟอกไต 1 เขต 1 ศูนย์ ให้บริการประชาชนลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและญาติ ,ศูนย์ฉายรังสีมะเร็งฟรี เป็นการจัดตั้งศูนย์ ฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งฟรี 1 จังหวัด 1 ศูนย์ ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น
หลังคาโซล่าเซลล์ฟรีเป็นการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ทุกหลังคาเรือน ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟฟ้าเฉลี่ยหลังคาเรือนละ 450 บาทต่อเดือน, มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด และการเพิ่มค่าตอบแทนอสส.กรุงเทพฯสนับสนุนคนอาสา เดือนละ 2,000 บาทเจ็บป่วยมีประกันดูแล
การหารายได้เพิ่มได้ 3 กะ เปิดพื้นที่ใหม่ๆ ส่งเสริมกิจกรรมใหม่ๆ เพราะวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ หมุนตลอด 24 ชม. เปิดพื้นที่การค้าขาย ที่ขายได้ตลอดวัน เน้นการสร้างงาน กระจายรายได้ เพิ่มกิจกรรมที่สามารกรองรับนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชม. คล้ายตลาดนัด ที่ได้รับความนิยมที่ประเทศไต้หวัน หรือประเทศเกาหลี และเราต้องจัดระบบดูแลความปลอดภัยทั้งแสงสว่าง กล้องวงจรปิด รวมทั้งระบบการขนส่งเพื่อรองรับ คนทำงานช่วงกลางคืน เป็นต้น