“อนุทิน” ยัน “วีรศักดิ์” ลาออกตามขั้นตอน บอกไม่รู้กระแสย้ายไป “เพื่อไทย” เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ไม่มีใครดูดใครได้
เมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ลาออกจากตำแหน่งรมช.คมนาคม ว่า ได้มีการแจ้งลาออกตามขั้นตอน และตอนนี้นายวีรศักดิ์ ก็ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ส่วนกระแสข่าวว่านายวีรศักดิ์ จะย้ายไปพรรคเพื่อไทยนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่นายวีรศักดิ์ แจ้งว่าสุขภาพไม่ดี ดังนั้นเมื่อตัดสินใจลาออกก็ต้องให้กำลังใจและให้รักษาตัวให้แข็งแรง
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวไปเพื่อไทย จะทำให้กระแสของภูมิใจไทยที่โคราช ยวบลงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่ตนได้บอกไปแล้วการที่ส.ส.จะย้ายเข้าหรือส.ส.ออกเป็นเรื่องปกติ สมมุติถ้าฝั่งภูมิใจไทยไปเพื่อไทยก็จะได้เคลียร์เรื่องใครเป็นประชาธิปไตยหรือใครไม่เป็นประชาธิปไตย จะได้เลิกคุยเรื่องนี้เสียทีว่าคนเพื่อไทยมาภูมิใจไทยแล้วถูกหาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าคนภูมิใจไทยไปเพื่อไทยแล้วเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ เรื่องนี้จะได้เคลียร์ว่าทุกอย่างเป็นประชาธิปไตย การย้ายเข้าย้ายออกเป็นเรื่องปกติ
เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังจากนี้การจะกล่าวหาว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคดูดจะลำบากแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่มีใครดูดใครมีแต่อยู่ได้กับอยู่ไม่ได้ ซึ่งอาจอยู่ไม่ได้ด้วยไม่เชื่อในนโยบายบริหารพรรคหรืออะไร ส่วนคนที่อยู่ได้อาจมองว่านโยบายดี พรรคมีความปึกแผ่นไม่มีการกระเพื่อม ยึดถือระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดในการร่วมรัฐบาล ยึดถือกติกามารยาทไม่เคยทำให้ผู้ร่วมงานเดือดเนื้อร้อนใจหรือความวิตกกังวล
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ยืนยันยันไม่มีความขัดแย้งกับนายวีระศักดิ์ ดูบุคลิกท่าน ใครไปโกรธท่านลง ยิ้มทั้งวัน ส่วนจะมีการเสนอปรับคณะรัฐมนตรีในสัดส่วนของภูมิใจไทยหลังจากนี้หรือไม่นั้น เบื้องต้นขอหารือกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคก่อน ซึ่งมีหลายปัจจัยประกอบ โดยเฉพาะเวลาวาระของสภาที่เหลืออีกแค่ 2 เดือน
เมื่อถามถึงกรณีทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย มีการไหลเข้าและไหลออก จะเป็นไปได้ในสูตรจับมือร่วมตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอดูหลังการเลือกตั้ง รอดูผลการเลือกตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าพรรคภูมิใจไทยมาตามเป้าตัวเลขเป็นที่น่าเชื่อถือคนก็จะวิ่งหาภูมิใจไทย แต่ถ้าพรรคภูมิใจไทยต่ำกว่าเป้าก็ต้องดูท่าทีของพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นต้องดูผลการเลือกตั้งให้ออกมาก่อน
