วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“ตู่”ท้ารบ“โทนี่” เปิดอกถูกหยามเกียรตินักรบ ทั้งที่สู้ถวายชีวิต-กลับถูกดูหมิ่น!!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ตู่”ท้ารบ“โทนี่” เปิดอกถูกหยามเกียรตินักรบ ทั้งที่สู้ถวายชีวิต-กลับถูกดูหมิ่น!!

“จตุพร”พร้อมรบ “ทักษิณ”เปิดอกถูกหยามเกียรตินักรบ ทั้งเทิดทูล รัก ศรัทธา สู้ถวายชีวิตให้ กลับถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม สิ้นศักดิ์ศรีมนุษย์ ลั่นคนไม่มีสัจจะ ไม่ใช่นักสู้เพื่อ ปชต. เป็นแค่พ่อค้าหากำไร มีพฤติกรรมเลวร้าย ผิดคำพูดกับทุกคน

เมื่อ 24 ม.ค.66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ความกลัวทำให้เสื่อม” มีนายธงไชย คำวิเศษณ์ ดำเนินรายการ โดยระบุพฤติกรรมของนายทักษิณ ชินวัตร คนที่ตัวเองเคยรักศรัทธา สู้ถวายชีวิตให้ กลับมาพูดเหยียดหยาม เหยียบย้ำศักดิ์ศรีนักรบ ระบุที่พูดแค่ 10% ถ้าไม่จริงโต้มา ขอสงวนสิทธิ์โต้กลับด้วยรายละเอียดฉบับเต็ม

นายจตุพร กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ทักษิณที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า อีกไม่กี่วัน พรรคเพื่อไทยจะทยอยมาตอบโต้ ซึ่งตนไม่กลัว พร้อมรบกัน เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ซึ่งเป็นสำนวนไทย นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ พูดมากที่สุด แต่กลับมีชะตากรรมพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อถูกศาลรธน.วินิจฉัยทำผิดกรณีจัดรายการทำกับข้าวออกโทรทัศน์ แต่ไม่ขาดคุณสมบัติสามารถกลับไปเป็นนายกฯได้

ขณะเดียวกัน นายสมัครยังถูกเลห์เพทุบายของพรรคพลังประชาชน (เมื่อถูกยุบตั้งใหม่เป็นพรรคเพื่อไทย) ไม่บอกนายสมัครตรงๆ ว่าจะไม่ให้เป็นนายกฯต่อ อีกทั้งวันที่ทิ้งนายสมัคร ยังนำไปประจานที่สภา ซึ่งเป็นความอำมหิตมาก โดยลวงล่อว่า ยังสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อไป แล้วไม่ให้เข้าห้องประชุม จนนายสมัครรู้ว่า ถูกเล่นงานแล้ว

“ผมได้เดินไปส่ง (นายสมัคร) ที่รถเห็นแววตาความเจ็บปวด ความสิ้นหวัง ซึ่งไม่ได้สิ้นหวังในตำแหน่งนายกฯ แต่ (สิ้นหวัง) แบบใจสลาย ทำไมไม่บอกความจริงกับเขา แต่เอาเขากลับมาที่สภา แล้วฉีกหน้าโดยไม่บอกความจริงกับเขา หลังจากนั้นอาการป่วยก็ทรุด ไปรักษาตัวที่สหรัฐ แล้วถัดมาก็ถึงแก่อสัญกรรม สิ่งนี้เป็นรอยแผลใจที่ให้อีกซีกหนึ่งต้องกล้า แล้วแยกตัวออกไป”นายจตุพร ระบุ

สมัคร สุนทรเวช

นายจตุพร กล่าวว่า หลังปี 2553 สภาพตอนนั้น ตนชอบดูหนัง “วิลเลียม วอร์เรน” ผู้นำและนักรบสกอตแลนด์กู้ชาติจากเครือจักรภพอังกฤษ แต่ถูกคนที่รักมากที่สุดและเอาชีวิตถวายหัวให้มากที่สุดฆ่า ก่อนถูกขวานฟันคอขาดได้เปล่งคำพูดว่า “อิสรภาพ”

“การต่อสู้ของช่วงนั้น ต้องกล้ำกลืนเลือด แต่ต้องสู้ทั้งที่ใจสลายมานานแล้ว และมีชะตากรรมไม่แตกต่างกัน เพราะคนที่เล่นงานเรา ก็คือคนที่เรามีความรัก มีความเทิดทูน เอาชีวิตไปถวายหัว จะถูกฆ่าตายในวันไหนก็ไม่รู้”นายจตุพร กล่าวและว่า จากนั้นหลายปีผ่านมา ตนถอยออกมาตามลำดับ แต่ชีวิตต้องติดคุกเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเกิดรัฐประหารก็ยังสู้ เปิดหน้าวิจารณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 3 ป. มาตลอด แต่พูดเกี่ยวข้องกับทักษิณน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้ทั้งในปี 2552 และ 2553 ตนไม่เคยหนีเลย ในวินาทีความตาย แม้เพื่อนถอยหมดแล้ว แต่ต้องสู้ต่อคนเดียว เพื่อไม่ให้คนอื่นมายึดเวทีนำไปสู่การสู้ให้เกิดความตายของประชาชนที่มากกว่า และจนถึงวันสุดท้าย จึงขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุมที่แยกราชประสงค์

นายจตุพร ระบุว่า จากนั้นทักษิณมาบอกให้หนี แต่ตนไม่หนี เพื่ออยู่ต่อสู้หาความยุติธรรมให้กับคนตาย ทั้งในสภาและนอกสภา โดยระหว่างทางกับการต่อสู้นี้ มีเรื่องบุญคุณและความคับแค้นมากมาย อีกทั้งทักษิณ ผิดคำพูดกับตนมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก

สิ่งสำคัญ ในขบวนการเสื้อแดงนั้น ตนไม่เคยออกไปหาเสียงด้วยเลย กรณีหาเสียง นายกฯอบจ.เชียงใหม่ช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ก็ไม่ไปพบคนเสื้อแดงเลย เพราะเพียงแค่ต้องการจะประกาศความจริงว่า เกิดอะไรขึ้นกับนายบุญเลิศเท่านั้น

“แล้วผมสรุปความได้ว่า ทักษิณไม่ใช่นักต่อสู้ ไม่ใช่นักประชาธิปไตย ไม่ใช่ผู้นำทางจิตวิญญาณอะไร แต่ตัวจริงเป็นพ่อค้า คิดเรื่องกำไรตลอดเวลา คิดถึงเกมตลอดเวลา การสลายคนเสื้อแดงไม่มีใครสลายได้ ถ้าทักษิณไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง”นายจตุพร กล่าว

ทักษิณ ชินวัตร-จตุพร พรหมพันธุ์

นายจตุพร กล่าวย้อนลำดับการสลายเสื้อแดงว่า ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุก ทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกันก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้

“ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกันก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดทนายกฯ”นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออก ต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกรากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดง ถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญมีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี

“ในการต่อสู้ ผมไม่มีวินาทีใดที่ทรยศ แต่เราต้องเก็บความเจ็บปวดที่มีมากมาย มีเกร็ดเรื่องราวที่ทักษิณไปกระทำการอย่างไม่สมควร อันเป็นสาเหตุมากมาย วันนี้ทักษิณสามารถตอบโต้ได้ ผมก็สงวนสิทธิ์ในการตอบโต้ทุกกรณี ผมไม่มีแค้นส่วนตัว แต่ที่กลืนเลือดกันมานั้น เพราะผมสงสารประชาชน ผมไม่เคยหักหลัง ไม่เคยวิ่งหนีใครก่อน และไม่เคยทำอะไรใครก่อนด้วย”นายจตุพร กล่าว

จตุพร พรหมพันธุ์ Cr : FB / PEACE TV

นายจตุพร กล่าวว่า ในเหตุการณ์ไปหาเสียงนายกฯอบจ.เชียงใหม่นั้น ทักษิณพูดถึงตนในลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยาม ซึ่งนักรบใครจะมาดูถูกไม่ได้ ไปสู้ ไปยอมตายก็ด้วยรัก ศรัทธา แต่การเอาชีวิตไปถวายหัวให้ ตนไม่ต้องการเอารางวัลอะไรตอบแทนจากทักษิณ

พร้อมกล่าวว่า แม้บางเวลาอาจเกิดความอยากบ้าง แต่ก็ต้องวางลง เมื่อนึกเห็นคนตาย บาดเจ็บ เห็นแววตาประชาชนมากมายต้องกล้ำกลืนกันไป บางเรื่องก็ต้องทนเจ็บ เช่น คดีก่อการร้ายที่ทักษิณเป็นจำเลยที่หนึ่ง ตนเป็นจำเลยที่สาม แล้วอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องทักษิณคนเดียว แล้วอัยการสูงสุดคนนี้ก็มาเป็น รมว.ยุติธรรม และเป็นแคนดิเตทนายกฯ เพื่อไทย

นอกจากนี้ ในคดีบ้านสี่เสา ตนก็อยู่ในสำนวนสอง แม้อธิบดีอัยการสั่งไม่ฟ้อง แต่ตำรวจแย้งและคดีนี้ที่ติดคุกกันระนาว เนื่องจากแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย สมัยเป็นอัยการสูงสุดเป็นคนสั่งฟ้อง ล่าสุดตนเจอฟ้องอีกคดีคนเดียว เราก็อดทน กล้ำกลืน ในทางแพ่งก็เจอฟ้องอ้างว่าเป็นประธาน นปช. แต่ขณะนั้นตนไม่ได้เป็น จากนั้นอีก 4 ปีจึงมาเป็นประธาน นปช.

“ถ้าเป็นคนทรยศ อยากได้ใคร่ดี 8 ปีนี้ผมต้องไปช่วยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ แต่ต้องมาติดคุกกับพล.อ.ประยุทธ์ และสู้กับพล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้น ถ้าทักษิณไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ยังคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น สามารถผิดคำพูดกับคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีสัจจะ และยังทำตนเป็นพ่อค้า ไม่แตกต่างไปจากเดิม เราก็จะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ที่ผ่านมาเพราะรัก เจ็บปวดมามาก ก็พูดไม่ลง เมื่อทักษิณลงมือก่อน ด้วยการดูถูกไม่กี่พยานนั้น นักรบเขารับกันไม่ได้ นักเลงรับกันไม่ได้”นายจตุพร กล่าว

ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม”

พร้อมกล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ก็ตาม แต่คนในเพื่อไทยและทักษิณลองบอกว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมด ตรงไหนเป็นความเท็จบ้าง กล้าสาบานกับวีรชนร่วม 100 ชีวิตหรือไม่ ที่ตนพูดมายังไม่ถึง 10% มีอะไรเป็นความเท็จบ้าง ดังนั้น มาครั้งนี้เราเห็นว่า บ้านเมืองอยู่ในอาการที่ล่อแหลมที่สุด ตนเห็นการกระทำกับนายสมัคร สุนทรเวช เป็นเรื่องกล้ำกลืนที่สุด และเป็นการกระทำกับคนอื่นมากมาย มีอดีตหัวหน้าพรรคคนหนึ่ง ซึ่งเขายอมลาออกให้ตามคำขู่ขององค์กรอิสระบางองค์กร ลาออกทั้ง ส.ส. รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ยังไม่ทันมาเก็บของที่ห้องหัวหน้าพรรคเลย ห้องว่างไปหมด เก็บของใส่รังวางไว้หน้าห้อง ทำกับเขาได้อย่างไร ทั้งที่เขาติดคุกให้ด้วย และยังมีชะตากรรมมากมายด้วยทักษิณ

“เราไม่ได้อยู่กับความกลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อม ที่ผ่านมาไม่ได้พูดอะไรเลย แม้พูดก็เลี่ยงด้วยมธุรสวาจาตลอด แต่ถึงจุดที่ว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว เมื่อคุณ (ทักษิณ) เหิมเกริม ดูถูกเหยียดหยาม ประสานักเลงว่า ถุยน้ำลายใส่ เอาตีนเหยียบหน้า ก็รบกัน เพราะคุณทำกับผมก่อน จนกระทั่งผมสุดทน จึงเอาเรื่องบ้านเมืองมาว่ากัน”นายจตุพร กล่าวและว่า วันนี้หลายคนอาจไม่สบายใจ แต่ตนจะบอกว่า เมื่อตาสว่างกับเรื่องอื่นมากมาย ทำไมไม่กล้าตาสว่างกับความจริงในสิ่งเหล่านี้บ้าง ทั้งหมดสะสมมานานแล้ว พร้อมกลืนเลือดเจ็บปวด ดังนั้นคำที่ตนพูดว่า ใจสลายเรื่องใหญ่นะ ทั้งองคาพยพเสนอหน้ามารบ ตนไม่กลัวสักคน

“ถ้าหมดความเกรงใจก็รบกัน ผมไม่สนใจอะไรเลย แม้รู้ว่าคุณทำอะไรกับใครไว้บ้าง แต่คนเราฆ่าได้ หยามไม่ได้ มันเรื่องใหญ่ คดีที่รอเป็นห่างว่าวไม่ไช่เรื่องผมเลยสักคดี แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทักษิณทั้งนั้น”

ประเทศไทยต้องมาก่อน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img