“ไพศาล” ชำแหละ 4 ปม กกต.ได้กลิ่นอะไรจึงเบรกยุบสภา? ยันไม่ต้องห่วงเหตุการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจนายกฯ มีอำนาจแค่กราบบังคมทูลเสนอพระร่างพระราชกฤษฎีกาให้ทรงพิจารณาเพื่อยุบสภา เท่านั้น
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Paisal Puchmongkol หัวข้อ “กกต.ได้กลิ่นอะไรจึงเบรคยุบสภา?” มีรายละเอียดดังนี้ “กกต.ได้กลิ่นอะไรจึงเบรคยุบสภา?”
1.กกต.ได้แจ้งผู้เกี่ยวข้องให้เตรียมการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าวาระของสภาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 23 มีนาคม 66 และจะมีการเลือกตั้งในกลางเดือนพฤษภาคม 66 ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ปกติ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ได้แจ้งอีกว่า ใกล้จะเลือกตั้งแล้ว ดังนั้นนักการเมืองที่จะเลือกตั้ง ต้องรีบสังกัดพรรค ซึ่งหมายถึงการย้ายพรรคด้วยว่า ต้องรีบดำเนินการ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติอีก
2.จู่ๆ เมื่อวานนี้ก็มีข่าวว่า กกต.ได้แสดงความห่วงใยว่า ถ้ามีการยุบสภาในช่วงนี้จะมีปัญหา เพราะกฎหมายเลือกตั้งยังไม่ประกาศใช้ ถ้ายุบสภาแล้ว ก็จะไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง จะกำหนดเขตเลือกตั้งก็ไม่ได้!
จึงต้องติดตามดูกฎหมายเลือกตั้ง ว่าไปถึงไหนแล้ว…
ปรากฏว่าผ่านสภาไปอยู่ในขั้นตอนการการเสนอโปรดเกล้าฯเป็นกฎหมาย ซึ่งเป็นพระราชอำนาจ ที่จะโปรดเกล้าหรือไม่โปรดเกล้า หรือจะไม่พระราชทานคืนมาก็ได้!!!
3.ชัดเจนแล้วว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปของฝ่ายค้านในครั้งนี้ เป้าหมายก็คือพลเอกประยุทธ์คนเดียว ในฐานะนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีกลาโหม-ผู้กำกับสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประธาน กตร.!!! ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าอาการหนักหนาสาหัสเพียงไหน
การอภิปรายครั้งนี้ จะไม่มีส.สฝ่ายรัฐบาลปกป้องเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เพราะพรรคของพลเอกประยุทธ์ไม่มีส.ส.
ถ้าปล่อยให้อภิปรายในเวลาที่ #นับถอยหลังการเลือกตั้ง จะมีกระทบต่อพลเอกประยุทธ์และ รทสช.อย่างรุนแรง จึงคาดหมายว่าจะยุบสภาหนีการอภิปราย!!!!
การที่รัฐบาลแจ้งว่า พร้อมให้ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายหลังวันที่ 15 กพ.66 ถูกอ่านไต๋ว่า จะยุบสภาวันที่ 14 กพ.66!!!
4.ถ้าจะยุบสภาในวันที่ 14 กพ.66 ซึ่งเขาว่าเป็นฤกษ์ดีมากนั้น ก็จะติดปัญหาที่ยังไม่มีกฎหมายเลือกตั้ง ยุบสภาแล้วเลือกตั้งไม่ได้ ก็จะต้องรักษาการกันไปไม่มีที่สิ้นสุด แบบนี้ก็เกิดวิกฤตการเมือง ยิ่งกว่าซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์อีก
หรือว่ากกต.จะได้กลิ่น แบบนี้!!!
ก็อยากจะปลอบใจว่าไม่ต้องห่วง เพราะการยุบสภาเป็นพระราชอำนาจ
นายกรัฐมนตรีมีอำนาจแค่กราบบังคมทูลเสนอพระร่างพระราชกฤษฎีกาให้ทรงพิจารณาเพื่อยุบสภา เท่านั้น!!!!
5.โดยสภาพ ของเรื่องราวทั้งหมดน่าจะเกิดเหตุการณ์โดยลำดับดังนี้
~มีการอภิปรายทั่วไป ประชาชนก็จะมีโอกาสรับรู้ว่าใครทำอะไรไว้กับบ้านเมืองบ้าง
~ประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายพรรคการเมือง
~ยุบสภา ซึ่งจะมีการเลือกตั้งก่อนวันสงกรานต์ หรือไม่ก็เลือกตั้งตามปกติตามที่กกต.ได้ประมาณการไว้
เว้นแต่..(1)..(2)…(3)..ก่อนการอภิปราย!!!!
จับตาความพยายามเร่งสถานการณ์จุดชนวนการปฏิวัติสี ที่กำลังโหมกระแสอดข้าวประท้วงให้เลิกมาตรา 112 ไว้ด้วยนะจ๊ะ!!!!!
