‘ชนินทร์’ โหมโรงอภิปราย 152 จวก ‘ประยุทธ์’ เก่งแต่กู้ ทำประเทศเป็นหนี้ดินพอกหางหมู ได้เวลา “เพื่อไทย” เป็นรัฐบาลวิสัยทัศน์นำประเทศ
เมื่อวนที่ 12 ก.พ.66 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง อยากให้ประเทศจัดงบประมาณรายจ่ายสมดุลให้ได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือปี 2577 แต่ระหว่างนี้ต้องกู้ชดเชยการขาดดุลไปเรื่อยๆก่อน สะท้อนถึงความสิ้นหวัง ไม่เห็นหนทางการพลิกฟื้นประเทศไทยได้ การบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีตลอดกว่า 8 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่คนไทยอับจนหนทางทำมาหากิน ภาระหนี้สินพอกพูนไม่ต่างจากดินพอกหางหมู การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องกู้มาโปะขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมียอดเงินกู้ชดเชยการขาดดุลปีงบประมาณ ล่าสุดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 695,000 ล้านบาท รวมวงเงินกู้ชดเชยการขาดดุลตลอด 9 ปีงบประมาณสูงราว 4.6 ล้านล้านบาท แต่กลับสร้างเศรษฐกิจไม่ได้ หารายได้เข้าประเทศไม่เป็น
ทั้งนี้ การจัดงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาล เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สะท้อนความสามารถของรัฐบาลได้อย่างดี ในสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยประกาศยุทธศาสตร์ “4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง” และ “คิดใหม่ ทำใหม่” แก้ปัญหาหนี้สินและสร้างความเจริญให้ประเทศมากมาย จนสามารถจัดงบประมาณสมดุล คือไม่จำเป็นต้องกู้มาชดเชยค่าใช้จ่ายใดๆของภาครัฐได้อย่างต่อเนื่องในปี 2548 และ 2549 แตกต่างจากยุคพลเอกประยุทธ์ นับตั้งแต่เป็นรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2557 หนี้สาธารณะเพิ่มจาก 5.69 ล้านบาท พุ่งไปเกือบ 10 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน หากต้องกู้แบบเศรษฐกิจไม่เติบโตเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆอีก 10 ปี ประเทศไทยอาจได้กลายเป็นประเทศที่มีหนี้ท่วมหัวสุดท้ายจะเอาตัวไม่รอดเป็นแน่
“รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เปรียบเหมือนโรงงานล้าสมัย ผลาญเงินไปมากกับเครื่องจักรปะผุ คนงานคุณภาพไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย ประเทศเวลานี้ต้องการการพลิกโฉมครั้งใหญ่ พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น เพราะเต็มไปด้วยบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่จะผลักดันนโยบายดีๆให้เกิดขึ้นได้จริง เหมือนที่เคยทำได้สำเร็จในสมัยรัฐบาลไทยรักไทยและเพื่อไทยในอดีต ขอให้ประชาชนทุกคนอดกลั้น รอแสดงพลังร่วมกันเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ในวันเลือกตั้งที่จะมาถึง และฝากติดตามการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้ ที่พรรคเพื่อไทยพร้อมกระชากหน้ากากคนดี สาวไส้ความล้มเหลวตลอดกว่า 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ ให้ประชาชนได้เห็นในทุกด้าน” นายชนินทร์กล่าว