“ศักดิ์สยาม” ชี้แจงปมที่ดินเขากระโดงยังไม่ลงบัญชีการรถไฟฯ รวมทั้งปัญหามอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช เสร็จล่าช้ามาก และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ระหว่างรอคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด บอกอย่ากังวลตัดสินใจอะไรคำนึงถึงหลักก.ม.และผลประโยชน์ประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 16 ก.พ.66 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส. และเลขาธิการพรรคประชาชาติ อภิปรายพาดพิงถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยกล่าวว่า การต่อสัญญาทางด่วนและเรื่องการไม่ลงบัญชีของรฟท. ในที่ดินเขากระโดงนั้น โดยการต่อสัญญาทางด่วนมูลค่าหนี้ทั้งหมดมีมูลค่า 1.37 แสนล้านบาท โดยจากการต่อรองเหลือมูลค่าหนี้ 7.8 หมือนล้านบาท ซึ่งเป็นฐานที่นำมาคำนวณขยายระยะเวลาสัญญาทางด่วนอีก 5 ปี 8 เดือน ส่วนการขยายสัญญาที่ทำให้การทางพิเศษมีตัวเลขขาดทุน 65,000 บาทนั้นเป็นตัวเลขขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น ส่วนการขยายสัญญาตามมติครม. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น เรื่องดังกล่าวคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง ส่วนเรื่องการเตรียมไม่ลงบัญชีของการรถไฟแห่งประเทศไทยในที่ดินเขากระโดง เป็นเพราะที่ดินดังกล่าวยังมีปัญหาการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ และอยู่ระหว่างกระบวนการพิสูจน์สิทธิ การรถไฟได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ทำให้ยังไม่สามารถลงบันทึกได้
ส่วนกรณีที่มีการอภิปรายถึงโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ครม.มีมติอนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างงานโยธาเพิ่มเติม 4,970 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในกรอบวงเงินงานโยธาทั้งโครงการ โดยสาเหตุที่ล่าช้าเพราะโครงการดังกล่าวมีการออกแบบไว้นานแล้ว แต่เมื่อไปก่อสร้างมีการเปลี่ยนสภาพภูมิศาสตร์ ความต้องการประชาชนเปลี่ยน และมีการเปลี่ยนสภาการแก้ไขของหน่วยงานในพื้นที่โครงการ กระทรวงคมนาคมจึงต้องคณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย จึงต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่ยืนยันว่าในปลายปี 66 จะสามารถเปิดทดลองวิ่งหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-เลี่ยงเมืองนครราชสีมาได้ ทั้งนี้ คาดว่าช้าที่สุดโครงการนี้จะสามารถเปิดบริการได้เต็มรูปแบบในปี 68
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกว่า เป็นเรื่องการการดำเนินการคัดเลือกเอกชนตาม พ.ร.บ.ร่วมลงทุน 2562 โดยรัฐมนตรีไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวในหลายขั้นตอน ทั้งขั้นตอนแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ขั้นตอนประกาศเชิญชวนเอกชน ขั้นตอนการคัดเลือกเอกชนตามหลักเกณฑ์ รวมทั้งขั้นตอนตรวจร่างสัญญาโครงการ ซึ่งเป็นการดำเนินการของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ทั้งนี้ตนก็รอให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอเรื่องดังกล่าวมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งได้ทราบว่า เรื่องโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดให้ถึงที่สุด ก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ดังนั้นขออย่ากังวลว่า ตนจะมีการตัดสินใจอะไรที่ไม่คำนึงถึงหลักกฎหมายและผลประโยชน์ของประชาชน เพราะเรื่องนี้ต้องทำให้ครบถ้วนตามกระบวนการของกฎหมาย เมื่อเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ยิ่งต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด ว่าจะให้เราทำอย่างไร