“จุรินทร์”เปิดตัว 3 นักบินสู้ศึกเลือกตั้ง กทม. เตรียมเปิดตัวผู้สมัครครบ 33 เขตต้นมี.ค. ขอทวงคืนเมืองกรุง ยังย้ำหลังลต.ใครรวมเสียงได้มากจัดตั้งรบ. ยึดเสียงส.ส.เป็นหลัก
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.66 ที่อาคารสุขประพฤติ เขตบางซื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรคร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขตบางซื่อ และเปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส. คนรุ่นใหม่ โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์กับพี่น้องชาวกทม.และชาวบางซื่อเราผูกพันกันมายาวนาน ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ก่อกำเนิดขึ้นจากนักการเมืองที่มาจาก กทม.หลายท่าน ตั้งแต่ปี 2489 มาจนถึงวันนี้อายุ 76 ปี และ 6 เม.ย.ที่จะถึงนี้ จะครบ 77 ปีบริบูรณ์ ประชาธิปัตย์เคยได้ที่นั่งในกทม.ถึง 30 ที่นั่ง จากที่นั่งทั้งหมด 36 แปลว่าเกือบจะยกกทม. คราวที่แล้วแม้ประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองที่พี่น้องทราบดีอยู่แล้ว ตนจำเป็นต้องมาพูดตรงนี้ แต่ว่าเที่ยวนี้ตนมั่นใจว่าจะไม่เหมือนคราวที่แล้ว และทุกอย่างจะดีกว่าคราวที่แล้ว เพราะมันมีสัญญาณเสียงตอบรับจากพี่น้องชาวกทม.บอกกับพวกเราชาวประชาธิปัตย์ เช่น ผลการเลือกตั้งในการแข่งขันเลือก ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.ประชาธิปัตย์ แม้ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่อย่างน้อยเราก็มาที่ 2 ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าเสียงตอบรับของชาวกทม.ต่อประชาธิปัตย์จะดีขึ้นกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่แล้ว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาและอดีตอันยาวนานเราพิสูจน์แล้วว่าประชาธิปัตย์คือผู้นำในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาของประเทศไทย ดังนั้นอย่างน้อยที่สุดเรามีนโยบายที่จะแก้รัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ไม่กี่วันมานี้มีการพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติแต่ว่าหลายพรรค บางพรรคคิดว่าไม่ควรจะให้สภาเปิดการประชุม เดี๋ยวจะมีการอภิปราย เดี๋ยวจะมีการตรวจสอบ แต่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็จริงแต่ไม่เคยกลัวการตรวจสอบ เราคือพรรคการเมืองที่ยืนหยัด มั่นคง ชัดเจน เราสนับสนับสนุนให้มีการเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติตามมาตรา 152 เพราะนี่คือวิถีประชาธิปไตยรัฐสภาที่ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป และนี่คือวิถีประชาธิปัตย์ของเรา
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า วันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่เป็นความคืบหน้าของการเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาวกทม. ของพรรค ก็คือการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อ พร้อมกับถือโอกาสเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค ประกอบด้วย 1. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ2. นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสายไหม 3. นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบึงกุ่ม ทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนพี่น้องชาว กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากชาวกทม.
“ขอถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกทม.ทั้ง 3 เขต คือ เขตบางซื่อ เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ขอความกรุณาให้โอกาสนักบินรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน และให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้เราได้มีโอกาส คัมแบ็ค มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวกทม. เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมใน กทม. ถัดจากนี้จะประกอบด้วย 4 กิจกรรม ก่อนเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว คือ 1. วันนี้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3 นักบิน 2. เปิดศูนย์เลือกตั้งที่เขตบางนา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ 3. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปชป. ที่เป็นสตรี ซึ่งประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการเมืองยุคใหม่ นอกจากต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมแล้ว ก็ต้องมีการเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นด้วย และ 4. เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ปชป. ทั้ง 33 เขต ในช่วงต้นเดือนมี.ค.
นายจุรินทร์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มทิศทางการเมืองต่อจากนี้ ว่า ถัดจากนี้ก็เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีก็พูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหนอย่างไร ซึ่งท่านก็บอกว่ามีในใจแล้ว และพวกเราก็พอทราบว่าสุดท้ายก็จะเดินหน้าเข้าสู่การยุบสภา ซึ่งถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน 45 – 60 วัน นับไปนับมาก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือน พ.ค. ส่วนวันที่เท่าไรก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมาก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่าจะเป็นวันที่ 7 พ.ค. แต่ กกต. จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นก็น่าจะไปตามนี้โดยประมาณ
“ถัดจากนี้การเมืองจะเข้มข้นขึ้น หมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือเลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ผมยืนยันว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ และเป็นหลักคิดสำคัญ ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวมกับพรรคไหน พรรคนั้นก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก”นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. ที่ กกต. มีการเพิ่มเป็น 8 รูปแบบ จะมีผลต่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ขอลงในรายละเอียด เป็นเรื่องที่พี่น้องชาวกทม. จะได้พิจารณาให้ความเห็น เพื่อให้ กกต. นำไปประกอบการตัดสินใจต่อไป รวมทั้งนักการเมือง หรือผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งจากทุกพรรค แต่ขอให้ยุติธรรม และไม่ไปสร้างความได้เปรียบ-เสียเปรียบ ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนี้หากจะออกมาอย่างไรทุกพรรคก็รับได้ ชาวกทม. และคนไทยก็รับได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดูจากตัวผู้สมัครที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งใน กทม. หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่าฯ กับ ส.ก. ที่ผ่านมา และเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง ซึ่งทั้งตน และรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งผู้สมัครทุกคน คนรุ่นใหม่พวกเราทุกคน ที่ลงพื้นที่ใน กทม. มีความมั่นใจ เพราะเราสัมผัสกับโลกของความเป็นจริงว่าเสียงตอบรับเป็นอย่างไร
“เทียบกับหลังเลือกตั้งคราวที่แล้วใหม่ๆ ตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกัน ดีขึ้นเยอะ ผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับพี่น้องชาวกทม.ด้วย ที่ให้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น ให้กำลังใจกับพวกเรา และมุ่งมั่นตั้งใจว่าเที่ยวหน้าจะมาช่วยประชาธิปัตย์” นายจุรินทร์กล่าว