วันพุธ, มิถุนายน 26, 2024
หน้าแรกHighlight“ค้านถาม-ลุงตู่ตอบ”ทำเรตติ้ง“บิ๊กตู่”ดีขึ้น ไม่แย่งปลาบ่อเดียวกัน“ขั้วเดิม”มีโอกาส
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ค้านถาม-ลุงตู่ตอบ”ทำเรตติ้ง“บิ๊กตู่”ดีขึ้น ไม่แย่งปลาบ่อเดียวกัน“ขั้วเดิม”มีโอกาส

“ซูเปอร์โพล” ชี้ศึกซักฟอก “ฝ่ายค้านถาม ลุงตู่ตอบ” ทำเรตติ้ง “บิ๊กตู่” ดีดกลับมาจี้ติด “อุ๊งอิ๊ง” เหตุชอบวลีเด็ด “ซื้อบ้านแถมสัญชาติ” อัดกลับบางพรรคการเมืองเจ็บแสบ จี้ให้ถอนสัญชาติคนทำผิด เผยโอกาส “ขั้วรัฐบาลเดิม” จะกลับมามีโอกาสสูง ถ้าไม่แย่งปลาในบ่อเดียวกัน

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.66 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจเรื่อง “ค้านถาม ลุงตู่ตอบ” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,571 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 17-18 ก.พ.66 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

เมื่อถามถึงการอภิปรายนายกรัฐมนตรี กรณี “ตู้ห่าว” และ “ทุนจีนสีเทา” พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.2 ระบุชอบวลีเด็ดของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บอกว่า “ซื้อบ้านแถมสัญชาติ” เชื่อมโยงกับธุรกิจครอบครัวพรรคการเมืองใหญ่ และพวกพ้อง, ร้อยละ 55.6 ระบุนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโต้ได้ดี มีประเด็น ทั้งตู้ห่าวได้สัญชาติช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และซื้อบ้านแถมสัญชาติ เกี่ยวโยงพรรคการเมืองใหญ่, ร้อยละ 54.8 ระบุนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบโต้ด้วยข้อมูลใหม่ ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ตู้ห่าวได้สัญชาติไทยในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, ร้อยละ 54.3 ระบุการอภิปรายนายกรัฐมนตรี กลายเป็นบูมเมอแรง กลับไปยังพรรคการเมืองใหญ่ฝ่ายค้าน และร้อยละ 45.5 ระบุฝ่ายค้านอภิปรายในเรื่องรู้มาก่อนแล้ว ไม่มีอะไรใหม่ ไม่ได้ประโยชน์อะไร

ที่น่าพิจารณา คือข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี จัดการปัญหาทุนจีนสีเทา และพนันออนไลน์ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.7 ต้องการให้นายกรัฐมนตรีถอนสัญชาติไทยของคนต่างชาติที่ทำผิดร้ายแรง ยึดทรัพย์ และห้ามเข้าประเทศอีก ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 ระบุนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องจัดการเด็ดขาดกับขบวนการพัวพัน ทุจริต ธุรกิจสีเทา และพนันออนไลน์

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงถ้าเลือกได้จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี พบว่า สูสีกันระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 28.5 กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 25.7 ในขณะที่ตามมาติด ๆ คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 21.2 ทิ้งห่างนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 14.4 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 3.8 และพล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ ได้เพียงร้อยละ 2.7 ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อแบ่งระหว่างคนกรุงเทพมหานคร กับคนต่างจังหวัด พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ใจคนกทม. ร้อยละ 33.0 ต่างจังหวัดร้อยละ 24.3, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ใจคนกทม. ร้อยละ 21.3 ต่างจังหวัดร้อยละ 29.9, นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้ใจคนกทม. ร้อยละ 9.2 ต่างจังหวัดร้อยละ 23.6, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้คนกทม. ร้อยละ 12.1 ต่างจังหวัด ร้อยละ 14.8 ,นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้คนกทม. ร้อยละ 8.3 ต่างจังหวัดร้อยละ 2.9 ในขณะที่พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ ได้คนกทม. เพียงร้อยละ 2.9 ต่างจังหวัดก็ได้เพียงร้อยละ 2.6 เท่านั้น

ค้านถาม-ลุงตู่ตอบ

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า คะแนนนิยมของประชาชนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังกลับมาเพิ่มสูงขึ้น จนจี้ติดคะแนนนิยมของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเพราะอยู่ในช่วงของความคลาดเคลื่อนบวก-ลบ ร้อยละ 5 อันน่าจะเป็นผลจากการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้ ที่ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ภาพอนาคตหลังการเลือกตั้งที่เป็นไปได้สูงคือ โอกาสที่จะได้รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นได้ ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้ไม่แตกแยกออกไปอยู่คนละขั้วและพรรคร่วมรัฐบาลไม่แย่งปลาในบ่อเดียวกันในแต่ละเขตเลือกตั้ง เพราะตัวเลขทางสถิติชี้ให้เห็นได้ว่า ประชาชนตัดสินใจเลือกตั้งกระจัดกระจายไปตามกลุ่มผู้นำทางการเมืองแตกต่างกันและผลรวมตัวเลขสถิติครั้งนี้ออกมาพบว่า กลุ่มของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมกันเป็นกลุ่มที่มากเพียงพอจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งได้ไม่ยาก บนการออกแบบยุทธศาสตร์การเมืองช่วงเลือกตั้งที่ดีไม่แย่งปลาในบ่อเดียวกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะได้เห็นผลลัพธ์เหมือนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ครั้งล่าสุดที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แข่งขันกับอีกกลุ่มหนึ่งที่เสียงแตกแพแตก ก็เป็นได้

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุต่อด้วยว่า ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกสถานการณ์เลือกตั้งครั้งนี้ จะพบว่า กำลังเกิดกระแสจะ “เอาทักษิณ” หรือ “ไม่เอาทักษิณ” หากเป็นเช่นนี้จริง ข้อมูลที่ค้นพบครั้งนี้จึงสะท้อนภาพได้ว่า โอกาสแลนด์สไลด์ไม่น่าจะเกิดขึ้น ถ้ากลุ่มไม่เอาทักษิณไม่แตก ไม่แย่งปลาในบ่อเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อจำนวนผู้สนับสนุนทั้งสองขั้วนี้พอ ๆ กัน โดย “ขั้วเอาทักษิณ” มีตัวแบ่งแค่สอง แต่ “ขั้วไม่เอาทักษิณ” ถูกแบ่งคะแนนไปกับหลายพรรค ดังนั้นถ้าข้อเท็จจริงนี้เกิดขึ้นในทุกเขตเลือกตั้ง โอกาสแลนด์สไลด์ให้กับพรรคเพื่อไทยก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img