“ศรีสุวรรณ” บุกสภาฯหอบคำพิพากษาศาลตัดสินจำคุก “ส.ส.ก้าวไกล” ให้ ปธ.สภาฯสั่งถอดถอนสมาชิกภาพ
วันที่ 22 ก.พ.66 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ทางมายื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนางผ่องศรี ธาราภูมิ โฆษกประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 43 พรรคก้าวไกล ว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.รายดังกล่าว ต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากศาลจังหวัดฉะเชิงเทราได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้ให้รอการลงโทษ 2 ปีมาตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.2564 แล้ว แต่เป็นที่สงสัยว่าทำไมยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส.อยู่ได้
ทั้งนี้สืบเนื่องจากพนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทราได้ยื่นฟ้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 43 พรรคก้าวไกลกับพวกรวม 50 คนเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราในความผิดต่อพรบ.เครื่องหมายครุฑพ่าห์ ซึ่งจำเลยทั้ง 50 คนให้การรับสารภาพ ศาลจึงมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ 1462/2564 พิพากษาให้ ส.ส. รายดังกล่าวกับพวกรวม 50 คนมีความผิดตาม พรบ.เครื่องหมายครุฑพ่าห์ 2534 ม.13 ประกอบ ปอ.ม.83 ลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือนและปรับคนละ 6,000 บาท การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตาม ปอ.ม.78 จำคุกคนละ 3 เดือน ปรับคนละ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตาม ปอ.ม.56
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2559 ส.ส.รายดังกล่าว เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกมีกำหนด 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6002/2559 ของศาลจังหวัดสมุทรปราการมาแล้ว
ดังนั้น เมื่อ ส.ส.รายดังกล่าว ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ และมิได้เป็นการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท ย่อมถือได้ว่าสมาชิกสภาพของ ส.ส.รายดังกล่าวต้องสิ้นสุดลงทันทีที่ศาลมีคำพิพากษา คือวันที่ 9 พ.ย.2564 แต่ทว่า ส.ส.รายดังกล่าวกลับยังมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.101 (13) บัญญัติให้สมาชิกสภาพสิ้นสุดลงนานแล้ว
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ จึงต้องนำความพร้อมสำเนาคำพิพากษาของศาลมายื่นให้ประธานสภาผู้แทนฯได้ดำเนินการถอดถอนสมาชิกภาพของ ส.ส.รายดังกล่าวต่อไปตามอำนาจหน้าที่ และจะต้องเรียกคืนเงินเดือน ค่าตอบแทน เบี้ยประชุม และผลประโยชน์อื่นใดทั้งหมดที่ ส.ส.รายดังกล่าวเคยได้รับไปหลังวันที่ 9 พ.ย.64 จนถึงปัจจุบัน ส่งกลับคืนสภาฯด้วย
