สภาฯปลดล็อก! แก้พ.ร.ก.ประมง ยึดร่าง “หมอชลน่าน” ขณะที่ “ก้าวไกล” ข้องใจ “บิ๊กตู่” เลื่อนใช้ก.ม.อุ้มหายเดือนต.ค. ถามลั่นกลางสภาใครโกหกกันแน่ เหตุผบ.ตร.แจงพร้อมปฏิบัติ ด้าน “สมศักดิ์” รับเครื่องมือยังไมพร้อม ยันไม่มีเจตนาถ่วงกม.
วันที่ 23 ก.พ.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 จำนวน 7 ฉบับ ตามที่หลายพรรคการเมืองเสนอมา ซึ่งตกค้างการลงมติวาระรับหลักการจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเกิดเหตุสภาล่ม โดยการพิจารณาในครั้งนี้มีกลุ่มชาวประมงมาติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายดังกลาวในห้องประชุมสภาฯด้วย โดยที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบวาระรับหลักการร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน 297 ต่อ0 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน มาพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตามหลังจากที่สภาฯให้ความเห็นชอบแล้ว ปรากฏว่า ที่ประชุมได้ถกเถียงกัน จะยึดร่างพ.ร.บ.ฉบับใดเป็นร่างหลักพิจารณาในชั้นกมธ. ระหว่างร่างของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับร่างของนางกันตวรรณ ตันเสถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายพรรคเพื่อไทยอ้างว่า ร่างฉบับนพ.ชลน่านมีเนื้อหาครอบคลุมการแก้ปัญหาให้ชาวประมงทุกด้านมากกว่าฉบับของนางกันตวรรณ
ขณะที่นางกันตวรรณชี้แจงว่า ร่างฉบับของตนมาจากกมธ.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีตัวแทนทุกพรรคการเมือง และภาคประชาชนร่วมพิจาณามาอย่างรอบคอบ ทั้งสองฝ่ายถกเถียงกันอยู่นานก่อนที่ประชุมสภาฯจะลงมติให้ความเห็นชอบ ใช่ร่างพ.ร.บ.ฉบับของนพ,ชลน่านเป็นร่างหลักในชั้นกมธ.
ต่อมาเข้าสู่วาระกระทู้ถามสด โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กรณีครม.ออกพ.ร.ก แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อเลื่อนการบังคับใช้พ.ร.บ.ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566 เป็นวันที่ 1 ต.ค.2566 ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในการออกพ.ร.ก. โดยอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ ขอให้เลื่อนไปก่อน อยากทราบอะไรคือเหตุผลแท้จริงการเลื่อนบังคับใช้ เพราะพล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร.บอกมีความพร้อมบังคับใช้กฎหมาย แต่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.บอกไม่พร้อม ข้ออ้างไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ อาทิ กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล้องบันทึกในห้องสอบสวน กล้องติดรถยนต์ แต่รายงานปฏิรูปตำรวจที่ส่งมายังสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สตช.มีความพร้อมดำเนินการหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครโกหก รัฐบาลไม่เต็มใจออกกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ช่วงที่กฎหมายถูกเลื่อนบังคับใช้ จะมีอะไรเป็นหลักประกัน ประชาชนจะไม่ถูกซ้อมทรมานหรืออุ้มหาย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า สาเหตุการเลื่อนใช้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากสตช.ยังไม่พร้อมในการบังคับใช้กฎหมาย ใน4 มาตรา เกี่ยวกับความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ เช่น กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ กล้องบันทึกภาพในห้องสอบสวน กล้องติดรถยนต์ จึงขอเลื่อนแค่ 7เดือน ถ้าบังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีความพร้อมจะกระทบต่อการจัดเก็บข้อมูล การบันทึกปากคำอาจไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด ส่งผลต่อความปลอดภัยของสาธารณะ เจ้าหน้าที่รัฐก็เสี่ยงถูกดำเนินคดีอาญาด้วย การอ้างรายงานต่างๆว่า สตช.มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ต่างๆแล้ว แต่รายงานที่ส่งมายังกระทรวงยุติธรรมแจ้งว่า ยังไม่มีความพร้อม การเลื่อน 7เดือนน้อยมาก
“ขณะนี้ทราบว่า สตช.ได้อนุมัติงบประมาณการจัดซื้ออุปกรณ์กล้องต่างๆที่ยังไม่พร้อมเรียบร้อยแล้ว ยืนยันไม่มีการดึงดันกฎหมาย ส่วนการส่งพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มาให้สภาฯพิจารณาให้ความเห็นชอบนั้น ทราบว่ากำลังเร่งส่งมาให้อยู่ แต่รับรองไม่ได้ว่า เมื่อส่งมาแล้ว จะมีการเปิดประชุมสภาฯให้ความเห็นชอบพ.ร.ก.ฉบับนี้ทันก่อนปิดสมัยประชุมหรือไม่”นายสมศักดิ์ กล่าว