“ภท.” ย้ำจุดยืนไม่เห็นชอบพ.ร.ก.เลื่อนพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ชี้ไม่มีเหตุจำเป็น จี้รบ.เร่งจัดงบให้สตช.
วันที่ 28 ก.พ.2566 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จุดยืนพรรคภูมิใจไทยขอโหวตไม่เห็นชอบพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ที่คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ และจะไม่ลงมติผ่านร่างฯฉบับนี้ เนื่องจากไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 โดยไม่มีเหตุจำเป็น และหากในกรณีที่สภาฯ ลงมติไม่ผ่านร่าง พ.ร.ก. ก็ขอให้รัฐบาลรีบดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือร่าง พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ที่มีการประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 66 ที่ผ่านมาเพราะเป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในกรณีมีการจับกุมจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์บันทึกภาพเหตุการณ์ เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับทำหนังสือแจ้งถึงความไม่พร้อมอ้างเหตุไม่มีงบประมาณจัดซื้อกล้อง จึงขอรัฐบาลเร่งดำเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะไม่ใช่กระทบเฉพาะภาคประชาชนเท่านั้น แต่การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวยังเป็นที่จับตาของต่างประเทศ อีกทั้งประชาชนจะมีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอีกด้วย
นายศุภชัย กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีว่าไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก.ขยายเวลาใช้บังคับร่างกฎหมายอุ้มหาย อีกทั้งก่อนหน้านี้ กมธ.ได้เชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าหารือ ซึ่งมีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนร่วมประชุม และยังยืนยันต่อ กมธ.ว่า มีความพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย ก่อนที่ต่อมาจะมีการส่งหนังสือแจ้งเหตุขัดข้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่วนกรณี หากมี ส.ส.รวบรวมชื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออก พ.ร.ก.เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งตามมาตรา 173 หากมีการยื่นต่อประธานสภาฯ ก่อนการอภิปราย สมาชิกก็จะไม่สามารถอภิปรายได้ ส่วนตนเองนั้นเจตนาที่จะให้สมาชิกมีการอภิปรายก่อน แล้วจึงลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าว