“เสรีรวมไทย” ย้ำประกาศเขตเลือกตั้งช้ากระทบไทม์ไลน์ยุบสภา “เสรัพิศุทธิ์” ยันจุดยืนยังอยู่ฝั่งประชาธิปไตย การันตี “ชูวิทย์” ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แค่ใช้คำพูดแรง
วันที่ 1 มี.ค.2566 ที่พรรคเสรีรวมไทย นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคำร้องของกกต.ในวันที่ 3มี.ค.เกี่ยวกับเรื่องจำนวนราษฎรที่นำคนต่างด้าวมาคำนวณการแบ่งเขตเลือกตั้งซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่า ต้องคำนวณเฉพาะผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น เพราะ เป็นคนมีสิทธิเลือกตั้งอย่างแท้จริง หากเอาคนต่างด้าวมาคำนวณเป็นจำนวนราษฎรด้วย จะมีบางจังหวัดมีจำนวนส.ส.เพิ่มขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งของกกต.ถูกต้อง ก็ประกาศแบ่งเขตได้เลยในวันที่ 3มี.ค. แต่ถ้าวินิจฉัยกกต.แบ่งเขตผิด กกต.ต้องเร่งแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ จะมีผลกระทบอยู่ 8จังหวัด จึงขอเรียกร้องให้กกต.ประกาศแบ่งเขตเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก 69จังหวัดที่ไม่เป็นปัญหา ให้ประกาศทันทีไม่ต้องรอประกาศพร้อมกัน ส่วน 8จังหวัดที่เหลือกกต.ต้องเร่งดำเนินการก่อนที่จะยุบสภา หากรอประกาศพร้อมกันทุกจังหวัดอาจจะช้า ถ้ากกต.ประกาศช้าอาจกระทบต่อการยุบสภาวันที่ 15มี.ค. ต้องเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 21มี.ค. จะทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อน เป็นวันที่21พ.ค. ไม่ใช่7พ.ค.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ชี้แจงกรณีการพร้อมจับมือข้ามขั้วกับพรรคพลังประชารัฐ หลังการเลือกตั้ง จะสวนทางจุดยืนพรรคหรือไม่ว่า พรรคเสรีรวมไทยประกาศชัดเจนไม่เอาเผด็จการ ไม่ขอร่วมงานกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากพล.อ.ประยุทธ์ อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ตนไม่เอา แม้จะมีข้อเสนอจะให้เงิน 300 ล้านบาท แลกกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีตอนเลือกตั้งรอบที่แล้วตนก็ไม่เอา แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยน พล.อ.ประยุทธ์แยกไปตั้งพรรคแล้ว การประกาศพร้อมจับมือพลังประชารัฐเพราะไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมรัฐบาลกับใครบ้าง ถ้าจะร่วมกับพลังประชารัฐก็ต้องอยู่ฟากนี้ เพราะไม่เช่นนั้นก็ต้องอยู่ฟากพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งตนไม่เอา แต่หากพรรคเพื่อไทยไม่ร่วมงานกับพลังประชารัฐก็คือไม่เอา
“ขอยืนยันจุดยืนพรรคเสรีรวมไทย ว่ายังคงอยู่ฟากประชาธิปไตยเช่นเดิมส่วนความเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์นั้น พรรคเสรีรวมไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คนละเส้นทางกัน ยังไม่ได้ทาบทามร่วมงานกับพรรค นายชูวิทย์เป็นผู้ใหญ่และไม่ใช่คนในพรรค จะไปห้ามได้อย่างไร แต่มองว่านายชูวิทย์ไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะดูจากข้อมูลที่เปิดเผยก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่คำพูดคำจาอาจเกินปกติไปหน่อย”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว