“ราเมศ” ไล่ “สมชัย” ไปเรียนหลักรัฐธรรมนูญใหม่ แสดงความเห็นได้แย่ที่สุด ไม่มีแก่นมีแต่รากเน่า ยิ่งกว่าเสื่อมเกียรติ
วันที่ 1 มี.ค.2566 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเลขานุการประธานรัฐสภา ได้กล่าวถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต ที่ได้ออกมาให้ความเห็น ต่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาพ.ร.ก. แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 โดยมีการพาดพิงทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร เกิดความเสียหาย ว่าหลักการเรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน รัฐธรรมนูญ มาตรา 173 ระบุไว้ชัดว่าก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะได้อนุมัติพระราชกำหนดใด ส.ส.จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวน ส.ส.เท่าที่มีอยู่ มีสิทธิเข้าชื่อเสนอความเห็นต่อประธานสภาว่า พ.ร.ก.นั้นไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และได้กำหนดให้ประธานต้อง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นเพื่อวินิจฉัย และให้รอการพิจารณา จนกว่าจะได้รับแจ้งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อได้ตรวจสอบลายมือชื่อเบื้องต้นครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะต้องให้หยุดการพิจารณาไว้ก่อน
นายราเมศ กล่าวว่า นายสมชัยต้องหัดทำการบ้านศึกษากฎหมายให้แตกฉาน จะได้ไม่แสดงความเห็นปล่อยไก่แบบนี้
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ตรงไปตรงมา ยึดหลักการตามที่รัฐธรรมนูญและข้อบังคับกำหนด ไม่เคยดำเนินการเรื่องใดที่ผิดกฎหมาย เมื่อมีการยื่นคำร้องต่อประธาน ประเด็นระยะเวลา 3 วัน นั้น เป็นเงื่อนเวลาที่ให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับความเห็น ไม่ใช่ระยะเวลาที่ให้ประธานสภาทำการตรวจสอบความถูกต้องของลายมือชื่อภายใน 3 วัน ที่สำคัญสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่หลักในการตรวจสอบลายมือชื่อโดยใช้ระยะเวลาที่ไม่นาน เมื่อประธานได้รับไว้แล้วก็ต้องหยุดการพิจารณาในสภา หลักการเรื่องนี้ยังไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวข้องกับศาลรัฐธรรมนูญว่ารับเรื่องความเห็นแล้วหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญบังคับให้หยุดการพิจารณาไว้ก่อนเมื่อมี ส.ส.ยื่นความเห็น เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญภายใน 3 วัน ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ถ้าประธานรับแล้วยังดำเนินการให้มีการประชุมต่อไป ก็จะผิดไปจากหลักการที่กล่าวมา
“การที่นายสมชัยบอกว่าการดำเนินการของนายชวน เป็นการเสื่อมเกียรติอย่างยิ่งนั้น ควรย้อนกลับดูตัวเองว่าที่เป็นถึงอดีต กกต. แต่แสดงความเห็นได้แย่ที่สุด ไม่มีแก่น มีแต่รากเน่า ยิ่งกว่าเสื่อมเกียรติ แต่คงไม่ต้องไว้อาลัยให้นายสมชัย เพราะยังไม่ได้เสียชีวิต เพียงแต่สูญเสียในเรื่องหลักคิดที่ถูกต้อง และรากที่เน่าก็เชื่อว่า หากเจอยาดีๆ ก็อาจจะหายได้”นายราเมศกล่าว
