“ศรีสุวรรณ” จ่อร้องกกต.สอบ”ก้าวไกล” ตั้ง “ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์” ช่วยเดินสายหาเสียง ชี้สุ่มเสียงเข้าข่ายผิดกม.อาจถูกยุบ สวนกลับ “ไตรรงค์” ผิดชัดเจน ยันพรรคการเมืองสาสมารถแก้ม.112 ได้ แต่อ้างร.9 ผิดเต็ม100 เห็นต่าง “สมชัย” ปมใช้ “เมธี ลาบานูน” ร้องเพลง “เช้าวันใหม่” ทำได้ เผยเตรียมฟ้องอีกหลายพรรคทำผิดกฎให้คนนอกแทรกแซงภายใน
วันที่ 2 มี.ค.2566 ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล แต่งตั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขานุการคณะก้าวหน้า และน.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลว่า บุคคลทั้ง3 ต้องไปตรวจสอบข้อกฎหมายให้ชัดเจนว่ามีสถานะอย่างไร ตอนนี้ตนกำลังตรวจสอบกับคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) หากเป็นอย่างไรก็จะดำเนินการทันที เพราะทราบว่าทั้ง3 ท่านจะไปช่วยพรรคการเมืองหาเสียงในวันที่ 3 มี.ค. นี้ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงพอสมควร หากตรวจสอบแล้วปรากฎว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคที่นายธนาธรไปช่วยหาเสียงได้อีกครั้งหนึ่ง การที่ตนออกมาร้องเรียนอาจจะมีข้อครนั้น ตนไม่สนใจ ใครอยากจะครหาก็ครหาไป เขาไม่ได้ป้อนข้าวป้อนน้ำตน อยากจะถล่มในเฟซบุ๊คก็ถล่มไป เพราะคนพวกนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับสังคม เก่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เก่งแต่หน้ามือถืออย่างเดียว แต่ประโยชน์ที่สังคมให้ออกมาจับผิดและตรวจสอบนักการเมืองกลับไม่ทำ ตนไม่เคยสนใจและไม่ให้ค่ากับคนเหล่านี้เลย
“หากบุคคลทั้ง3 ยืนยันว่าสามารถทำได้ก็ขอให้ออกมาแถลงให้ประชาชนรับทราบด้วย จะได้เกิดความมั่นใจทั้งประชาชนและฝ่ายตรงข้าม ก็จะไม่ดำเนินการอะไร แต่ตนก็ต้องตรวจสอบในข้อกฎหมายและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ร.ป.พรรคการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”นายศรีสุวรรณ กล่าว
เมื่อถามว่านายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เรียกร้องให้การตรวจพรรคการเมืองที่ใช้ม.112 ในการหาเสียงว่าเข้าขายผิดกฎหมายด้วยเช่นกันหรือไม่เพราะเกี่ยวข้องสถาบันกษัตริย์นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หลายคนอาจจะเข้าใจผิดตนเป็นนักกฎหมายรู้ว่าข้อกฎหมายใดที่การกระทำใดเป็นการฝ่าฝืน ตนไม่ได้มั่วซั่วที่ใครบอกให้ร้องเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วก็ร้องไปเรื่อย และการนำเสนอแก้ไขม.112 เป็นหนึ่งในประมวลกฎหมายอาญา และประมวลกฎหมายแพ่งที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นคนที่จะเสนอแก้ไขได้ต้องเป็นนักการเมือง ส.ส. ส.ว. และท่าที่ตรวจสอบดูบุคคลที่ออกมาเสนอแก้ไขก็เป็นนักการเมือง เป็นส.ส. ดังนั้นคนเหล่านี้ก็มีอำนาจทำได้ ไม่ใช่เฉพาะม.112 แต่เขามีสิทธิ์แก้ไขกฎหมายได้ทุกฉบับ รวมทั้งประชาชนก็พร้อมที่จะเข้าชื่อเสนอให้แก้ไขกฎหมายได้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่กฎหมายที่เขารณรงค์เสนอแก้เกี่ยวข้องกับสถาบัน หลายคนก็พยายามจะโยงว่าเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ ซึ่งมันไม่ใช่
“แก้ไขกฎหมายก็คือแก้ไขกฎหมาย แต่การปราศรัยโดยเอาสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเป็นคนละประเด็นกัน ต้องแยกให้ชัดเจน และที่ท่านไตรรงค์ปราศรัยนั้นผมฟันธงว่ามันผิด 100 เปอร์เซนต์ แม้จะอ้างว่าพูดถึงสถาบันกษัตริย์ในอดีต แต่ต้องดูสามบรรทัดสุดท้ายที่เขาพูดว่า “ร.9 สนับสนุนคนดีให้มาบริหารบ้านเมือง ” แม้ท่านจะสวรรคตไปแล้วแต่ท่านยังอยู่ในใจประชาชนและอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน ถ้าบอกว่าพูดอย่างนี้แล้วไม่ผิดต่อไปนักการเมืองคนอื่นๆก็สามารถพูดได้ ซึ่งมันไม่ถูกต้อง วิจารณญาณปุถุชนทั่วไปก็รู้อยู่ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อย่าเอาสีข้างเข้าถูไฟแดงโร่อย่างนั้นไม่ถูกต้องเป็นผู้หลักผู้ใหญ่แล้วต้องเข้าใจ”นายศรีสุวรรณกล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า ยังมีพรรคการเมืองอื่นๆที่มีพฤติการณ์ที่หาเสียงผิดกฎหมายอีกหลายพรรค ทั้งพรรคการเมืองและพรรคฝ่ายค้านเพราะในมาตรา 28,29 ของพรป.พรรคการเมือง ระบุว่าห้ามมิให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำ ชี้นำหรือดำเนินกิจการใดให้กับพรรคการเมือง เช่นบุคคลที่ดูแดนไกลที่เข้ามาแทรกแซงพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.ระบุว่าเอ็มวีเพลงเช้าวันใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ผิดกฎหมาย เนื่องจากนายเมธี อรุณ หรือ”เมธี ลาบานูน” เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ด้วย นายศรีสุวรรณกล่าวว่าในกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 73 อนุมาตราท้ายระบุชัดเจนว่าถ้าบุคคลดังกล่าวมีอาชีพเช่นไรก็ไม่ขัด และนายเมธีก็เป็นนักร้องมาก่อน ดังนั้นเขาจะมาร้องหาเสียงก็ไม่ขัดต่อกฎหมาย จึงคิดว่าไม่น่าจะผิด มองต่างกับนายสมชัย มันแล้วแต่คนจะมอง เลข 6 กับเลข 9 คนยังมองต่างกันเลย แต่กฎหมายเขาเขียนไว้อย่างนี้ คนที่เป็นนักแสดงสามารถใช้สิทธิ์ทำต่อไปได้ จะไปห้ามเขาได้อย่างไร คนที่เป็นนักร้องห้ามเขาไม่ให้ร้องเพลงก็ไม่ได้ ส่วนนักแสดงบางคนที่มาเป็นนัการเมือง และหยุดเผยแพร่การแสดงของตัวเองกฎหมายก็ไม่ได้ห้าม เพียงแต่เขาระวังมากกว่า