“ชวน” พอใจ 4 ปีผลงานสภาฯ ออก ก.ม. – ช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านได้กว่า 80% โยนองค์ประชุมล่มเหตุ “นายกฯ-พรรคแกนนำ” ไม่ได้เป็นส.ส. กรีดบางพรรคก็โกรธคุมกันยาก
วันที่ 8 มี.ค.66 เวลา 13.20 น.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ว่า โดยรวมถือว่าใช้ได้ แต่เกิดปัญหาในช่วงปลายสมัยประชุม ที่มีปัญหาในเรื่ององค์ประชุมไม่นายกฯครบ ทำให้เสียโอกาส ในการออกกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองหลายฉบับ แต่โชคดีที่สภาชุดนี้ขยันตั้งแต่ช่วงปีแรก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับ โควิด – 19 ก็ตาม ทำให้กฎหมายรัฐบาล ไม่ค้างสภา แต่มาค้างในช่วงท้าย ส่วนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ก็ผ่านได้ทุกเรื่อง ยกเว้นร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 159 และยกเลิกมาตรา 272) ที่ส.ว.มาประชุมไม่ครบองค์ประชุม ด้วยความรู้สึกว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายโจมตีวุฒิสภา
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในส่วนของการหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสุดท้ายของการประชุมส.ส. ส่วนใหญ่ เห็นว่าผลการหารือกว่า 80 %ได้รับการแก้ไข ซึ่งไม่ค่อยได้ยิน ตนจึงบอกว่าต้องไปขอบคุณฝ่ายบริหารด้วย ทั้งนี้เราได้ปรับเปลี่ยนระบบการส่งเรื่องไปยังฝ่ายบริหารด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งได้ผล ไวขึ้น แต่สิ่งที่ไม่สามารถพัฒนาได้คือกระทู้ถาม ที่ได้ยินว่ารัฐบาลไม่มาตอบกระทู้ ตนจึงบอกว่าอยากให้เปรียบเทียบกับในอดีต พบว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันตอบกระทู้ได้มากกว่าในอดีตมาก ส่วนเรื่องใหม่ที่เราไม่เคยทำคือกระทู้ถามสดด้วยวาจา ซึ่งรัฐมนตรีจะไม่รู้ตัวก่อน ดังนั้นบางท่านจึงไม่ได้เตรียมตัว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยสรุปคือการทำงานของสภาชุดนี้ ตลอด 4 ปี ผ่านไปได้ด้วยดีพอสมควร แต่ตนเสียดายตอนหลัง เพราะขนาดตนทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยตัวเอง เพื่อแนะนำให้หารือพรรคร่วมรัฐบาล แล้วถามว่าพรรคไหนส่งส.ส. เข้าประชุมกี่คน เพื่อให้การทำงานในสภา ไม่มีปัญหา ซึ่งตนทราบว่านายกรัฐมนตรี ช่วยพูดให้แล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะพรรคการเมืองต่างๆ ให้ความร่วมมือ
เมื่อถามว่า กรณีปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ เกี่ยวข้องกับการเป็นรัฐบาลผสมหลาบพรรคหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า รัฐบาลทุดชุดที่ผ่านมา ก็เป็นรัฐบาลผสม แต่ชุดนี้ผสมเยอะ กว่า 19 พรรคการเมือง ซึ่งมีปัญหาในช่วงหลังของการทำงาน ตนเข้าใจว่าเป็นเพราะ 1.นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นส.ส. ซึ่งท่านจะมาสภาฯเฉพาะวันอภิปราย ไม่ไว้วางใจ หรือการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี เท่านั้น 2.หัวหน้าพรรคที่เป็นแกนกลางจัดตั้งรัฐบาล ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. ดังนั้น เวลาถามหาผู้รับผิดชอบในเรื่อง “องค์ประชุม” เหลียวซ้ายแลขวาก็หาตัวยาก ในส่วนของวิปหรือผู้ควบคุมเสียง เราก็ต้องเห็นใจเขา เพราะควบคุมองค์ประชุมยาก ซึ่งพยายามแล้วแต่ความร่วมมือก็ไม่พอ บางพรรคการเมืองก็โกธรที่ญัตติของตัวเองไม่ผ่าน จึงแสดงการตอบโต้ด้วยการไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ แต่ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ได้มาคุยกับตนว่าการอยู่ในห้องประชุมแต่ไม่กดบัตรแสดงตน เพื่อให้องค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งตนให้เจ้าหน้าที่นับในห้องประชุมก็ปรากฏว่า ครบองค์ประชุม เพียงแต่ไม่ได้เสียบบัตรแสดงตน
“สมาชิกให้ความร่วมมือ 99.99% อะไรที่ไม่ถูกต้อง เขาก็ยอมรับ ดังนั้นในอนาคตก็หวังว่าจะเรียนรู้ บทเรียนการทำงานที่ผ่านมา สำคัญที่สุดคือความต่อเนื่อง เมื่อสภาอยู่ได้ครบ 4 ปี ก็อย่าไปว่างเว้น เพราะก่อนที่จะมีสภาฯ ชุดนี้ ได้ว่างเว้นไป 5 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานมาก ไม่มีบทเรียน และหลายคนไม่รู้ว่าสภาทำงานอย่างไร ดังนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นใหม่และถ้าไม่อยู่ในระเบียบข้อบังคับสภาก็เละ เช่น บางคนแต่งตัวไม่เรียบร้อย”นายชวน กล่าว