“ศรัณย์วุฒิ” ยก 3 จุดเด่น โผซบ “ลุงตู่-รทสช.” มั่นใจได้กลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ ขอโทษเคยท้าดวล อ้างเลือดฝ่ายค้านมันแรง เผยหลังยุบสภาสมัครเข้าทันที ปัดกลืนน้ำลายตัวเอง อัดพวกย้ายพรรคไปมาก็ไร้จุดยืน
วันที่ 16 มี.ค.2566 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติแถลงว่า วันนี้เป็นการตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญของตน ที่เตรียมจะย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งสมัยตนอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ไปด้วยกันไม่ได้ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ให้ตนอภิปราย และไม่ให้แตะต้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตนจึงแตกหักกับพรรค เพื่อชาติ เมื่อไปอยู่กับพรรคเพื่อชาติ ก็แตกหัก และอยู่ด้วยกันไม่ได้ จากนั้นตนไปอยู่กับพรรคเสรีรวมไทยของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกันบางอย่างที่ต้องสงวนเอาไว้ รวมถึงที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เคยประกาศว่าสามารถร่วมงานกับพล.อ.ประวิตรได้ ก็ทำให้ตนอึดอัดใจ
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวต่อว่า ตนสู้เต็มร้อย ตนถูกฟ้องหลายคดีและไม่มีใครช่วยตน ตนเป็นนักรบผู้ต้องการประชาธิปไตยตัวจริง จึงอยู่พรรคไหนไม่ได้ เพราะพรรคที่มีอยู่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม หลอกลวงประชาชน คนไทยทั้งแผ่นดินต้องหูตาสว่าง อย่าให้ใครมาหลอกเรา ตนจึงเลือกได้2ทางคือ ด้วยความสามารถและการต่อสู้เพื่อประชาชน วันนี้จึงไม่สนใจขั้วประชาธิปไตยจอมปลอมที่ผสมพันธุ์กันไปหมดแล้ว และทำพรรคเพื่อบริษัทหนึ่งตระกูลหนึ่ง ตนหมายถึงพรรคไหนคนก็รู้ ส่วนอีกพรรคหนึ่งก็สุดโต่งจนประชาชนหวั่นไหวกันหมด อีกทางเลือกหนึ่งคือการทำงานกับพรรคที่ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า พรรคการเมืองปัจจุบันคือพวกประชาธิปไตยจอมปลอม และหลอกลวงประชาชน โดยใช้ประชาธิปไตยบังหน้า แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดเด่น 3 ข้อ คือ 1.เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ 2.มีความจงรักภักดี และ3.ประชาชนรากหญ้าได้รับประโยชน์มากมายจากรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมาพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้รับอะไรเลยมิหนำซ้ำชาวบ้านยังบอกกับตนว่าชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ เพราะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และแม่ค้าก็บอกว่าชอบโครงการคนละครึ่ง
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จุดอ่อนก็มี แต่จุดแข็งก็มาก จากสถานการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่ โควิด-19 สงครามหรือว่าเศรษฐกิจโลกจะทรุดแค่ไหนพล.อ.ประยุทธ์ก็ประครองให้เศรษฐกิจไทยอยู่ได้ แต่หลายคนโจมตีว่าบริหารไม่เป็น ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจแย่ก็ให้ไปดูเศรษฐกิจในหลายประเทศว่าแย่กว่าประเทศไทยมากแค่ไหน ตนจึงมาอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ และหลังจากมีการยุบสภา ตนจะลาออกจากพรรคเพื่อชาติ และจะไปสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทันที
“ถ้าผมทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนได้ มีพรรคไหน ที่ดีกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ และเชื่อมั่นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหนึ่ง การที่ผมได้อยู่พรรคที่มีนายกฯ ก็จะมีโอกาสได้เป็นส.ส. และอาจจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ก็อยู่ที่การทำงานของผม ถ้าผมอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถช่วยลูกหนี้ทั้งแผ่นดินที่กำลังลำบากได้ นอกจากนี้ ผมยังนำนโยบายเกษตรร่ำรวยไปให้พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช. ไปพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ยังเสนอนโยบายด้านสวัสดิการต่างๆ เช่น การนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มายกระดับเพิ่มทักษะ เพื่อดูแลผู้สูงอายุ และให้ได้รับเงินเดือน 20,000 บาท โดยเลือกนิสัยดีและมีตังค์ ถ้าพรรคนำนโยบายนี้ไปใช้ ผมจะขอปวารณาตัวรับใช้เต็มที่ ยืนยันว่าผมไม่เคยต่อรองเพื่อได้อะไรจากพรรค รทสช. แต่ต้องการทำเพื่อประชาชนทุกคน” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ตนเคยท้าพล.อ.ประยุทธ์ ดวลปืนนั้น เป็นการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งต้องทำสุดชีวิต และขุดคุ้ยทุกอย่าง เมื่อวันนี้สถานการณ์เปลี่ยน ตนต้องยึดประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ตนยังชื่นชอบพล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกว่าต้องการจะต่อสู้กับพวกประชาธิปไตยปล้นชาติ และมีสัญลักษณ์ของความเป็นอนุรักษ์นิยม เพื่อทำให้ประเทศสงบ และอยู่ด้วยสิ่งดีๆ ไม่ใช่ใช้ประชาธิปไตยจอมปลอมมาปล้นชาติโกงบ้านกินเมือง จึงขอโทษพล.อ.ประยุทธ์ สำหรับสิ่งที่ทำไป ตนไม่ได้กลืนน้ำลายตัวเอง เพราะคนที่ย้ายพรรคกันไปกันมา ก็ไม่เห็นมีจุดยืนอะไร