“อนุทิน”รับกินข้าว “บิ๊กป้อม” คุยการเมือง ปิดดีลจับขั้ว “ภท.-พปชร.” หากไม่มีอุบัติเหตุการณ์เมือง ย้ำพร้อมนั่งนายกฯ ในฐานะพรรค 70 บวก ขณะที่ความนัมพันธ์นายกฯยังดี
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์ทางไทยพีบีเอส โดยยอมรับว่า วงรับประทานอาหารระหว่างแกนนำพรรคภูมิใจไทยและพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ5 จังหวัด เป็นการนัดหมายเพื่อพบปะพูดคุยในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล และในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้ประสานขอเข้าพบพล.อ.ประวิตร โดยในวงอาหารได้มีการพูดคุยและประเมินสถานการณ์การเมืองร่วมกัน และอาจจะเรียกได้ว่า ดีลระหว่างพรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐลงตัวแล้ว เพราะการทำงานร่วมกันมาตลอด 4 ปี ไม่มีปัญหาใดๆ และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
“ภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐ ทำงานร่วมกันมา 4 ปี ถ้าไม่มีอุบัติเหตุ หรือ เหตุจำเป็นยิ่งยวด เราไม่มีปัญหา สิ่งใดไม่เข้าใจก็เคลียร์กันครบทุกเรื่อง” นายอนุทิน กล่าว
ผู้ดำเนินรายการ ถามถึงความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลังมีข้อสังเกตความไม่ลงรอย จากการสั่งพักโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเดิม ทั้งความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือความสัมพันธ์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีความแข็งแรง มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่า การทำงานคุม 3 กระทรวง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีผลงานที่จับต้องได้ และผู้สมัครของพรรคในครั้งนี้ เป็นผู้สมัครที่มีชื่อชั้น จึงเชื่อว่า พรรคภูมิใจไทยจะได้รับการเลือกตั้งมากกว่า 70 ที่นั่งอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปีแรก หรือ จะเป็น 2 ปี ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ ตามสูตร 2+2 นั้นผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสิน
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังปฏิเสธขอความช่วยเหลือจากพล.อ.ประวิตร ในวงอาหารที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อช่วยเหลือในทางคดี กรณีที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค ภท. ถูกร้องกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และเป็นเหตุให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
“ไม่มีการพูดเรื่องส่วนตัวของใครเลย เป็นการประเมินที่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริง วันนั้นเป็นเพียงพบปะส่วนตัว จึงไม่อยากจะแก้ข่าวใดๆ” นายอนุทิน กล่าว