‘จุรินทร์” มั่นใจปชป.ได้เสียงมากพอจับมือพรรคอื่น ชี้ ‘ทักษิณ’ กลับบ้านได้เลย แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เชื่อแค่พูดหวังผลช่วงเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.66 ที่โรงแรมบลิซ โฮเทล ลาดกระบัง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจับขั้วกับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ประกาศแล้วว่าเรายึดมั่นประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ที่เหลือก็เป็นฝ่ายค้าน จึงขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนหลังการเลือกตั้งว่า พรรคไหนจะได้เท่าไหร่ แล้วใครจะไปรวมกับใคร กลายเป็นเสียงข้างมากเสียก่อน เพราะฉะนั้นต้องนับหนึ่งที่การเลือกตั้ง ส่วนการจับขั้วนั้นสามารถทำได้ แต่จะเกิดจริงได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับมือประชาชนที่เป็นผู้ให้คำตอบก่อนว่าเขาจะให้พรรคไหนได้ส.ส.เท่าไหร่ จากนั้น พรรคจะพิจารณาว่าจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร โดยอาศัยที่ประชุมพรรค และต้องเป็นมติด้วย
“ประชาธิปัตย์เป็นประชาธิปไตยตัวจริง ตัวจริงทั้งประชาธิปไตยในพรรค และประชาธิปไตยนอกพรรคในระบบประชาธิปไตยสากล นี่คือสิ่งที่เรายึด ใครจะไปจับกับใครก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น แต่ประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ไปจับกับใคร จึงตั้งหลักไว้ชัดเจนแล้วว่า ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง และเมื่อประชาชนให้คำตอบแล้ว เราก็จะตัดสินใจ เพราะต้องนับหนึ่งด้วยการเคารพเสียงประชาชนก่อน”นายจุรินทร์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ในการรวมเสียงข้างมากนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่เท่าไหร่รวมกับที่เท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าเมื่อรวมเสียงประชาชนทั้งหมดแล้วใครมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะได้ที่เท่าไหร่ก็สามารถตั้งขั้ว หรือจับขั้วรวมกันเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ได้รับเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ที่ 2 จะเป็นรัฐบาล ที่ 3 ที่ 4 เป็นฝ่ายค้าน เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคที่ได้คะแนนมาเป็นลำดับ 1 ก็เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็เกิดขึ้นได้เพราะการรวมเสียง ดังนั้นประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสที่จะได้รับเสียงที่อยู่ในระดับที่สามารถรวมเสียงกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการกลับประเทศไทย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายทักษิณกลับประเทศได้อยู่แล้ว ถ้าจะกลับ ไม่มีใครห้ามได้ แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่า นายทักษิณนั้นออกมาพูดในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง