“สิระ” ของขึ้น ประณาม “ม็อบราษฎร” สุดเถื่อน มีอาวุธ เจตนาทำร้ายตำรวจ จวก “แกนนำ” อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบ อย่าอ้างว่ายุติชุมนุมไปแล้ว ด่าแสบ “อย่าเอาประชาธิปไตยมาบังหน้า” เตือนให้ใช้สมองคิด ใครคือคนที่ได้ประโยชน์ที่สุด หากมีคนเจ็บ-คนตาย ใช่ “อีแอบ” ที่หลอกใช้หรือไม่
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.64 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของม็อบราษฎรในวันนี้ว่า ขอประณามการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความรุนแรงและต้องการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ การชุมนุมในวันนี้ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธอย่างที่แกนนำได้กล่าวอ้างมาตลอด เพราะเห็นได้ชัดว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธในมือและเจตนาทำร้ายร่างการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรงโต้ตอบประชาชนเลย อีกทั้งยังจงใจทำลายทรัยพ์สินของทางราชการด้วย
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แกนนำอย่ามาปฎิเสธความรับผิดชอบ อย่ามาอ้างว่าได้ประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว เพราะคนที่พาผู้ชุมนุมมาคือบรรดาแกนนำ ที่ไม่มีความรับผิดชอบ หากคุณไม่สามารถดูแลการชุมนุมให้เรียบร้อยได้ ก็อย่าก่อปัญหา เพราะคนเดือดร้อนคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เขาต้องมาปฎิบัติหน้าที่ ดูแลความปลอดภัย แต่กลับโดนพวกคุณทำร้าย การกระทำป่าเถื่อน ชั่วช้าแบบนี้ ขออย่าเอาประชาธิปไตยมาบังหน้า เพราะมันไม่ใช่การเรียกร้องด้วยวิธิสันติแล้ว และพอถูกจับดำเนินคดีก็มาอ้างว่าแสดงออกในฐานะประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่อยู่ในคาบผู้ก่อการร้าย”นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวต่อว่า ไม่ทราบว่าเบื้องหลังของความรุนแรงที่เกิดขึ้นคืออะไร แต่หากมีเป้าประสงค์ให้เกิดการปะทะ บาดเจ็บ เพื่อปลุกกระแสม็อบ ขอฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ช่วยใช้สมองที่มีอยู่คิด วิเคราะห์ว่า หากมีผู้บาดเจ็บ ล้มตาย พวกคุณจะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ และเมื่อการชุมนุมจบลงคนที่ได้ประโยชน์จากความสูญเสียของผู้ชุมนุม คือใคร ใช่บรรดานักการเมืองอีแอบที่หลอกใช้ประชาชนเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือไม่