“สมศักดิ์” แจงยิบปัดเขียนกฎกระทรวงใหม่ เอื้อ “ทักษิณ” ไม่ต้องติดคุก ยันกฎหมายเริ่มร่างปี 58 เสร็จปี 60 ยังไม่ได้นั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ชี้กฎกระทรวงที่ลงนามปี 63 ก็ร่างตั้งแต่พ.ร.บ.ประกาศใช้ เชื่อปั่นกระแสหวังเชื่อมโยง “สามมิตร” กลับ “เพื่อไทย”
วันที่ 31 มี.ค. 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่พรรคเพื่อไทย ต้อนรับกลุ่มสามมิตร อย่างอบอุ่น อาจเป็นเพราะช่วยแก้กฎกระทรวงเพื่อรองรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำว่า ที่รศ.ดร.ธนพร ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า หากนายทักษิณ กลับมาติดคุกจริง ก็มีโอกาสได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะปี 2560 มีการตราพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ ที่มีการกำหนดสถานที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ ให้เป็นสถานที่คุมขังตามกฎกระทรวง ที่ออกมาเมื่อปี 2563 ซึ่งมีตนเป็นคนลงนามนั้น ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า รศ.ดร.ธนพร เข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า คำสัมภาษณ์มีความพยายามจะเชื่อมโยงให้เห็นว่า ตนเป็นคนออกกฎกระทรวง ที่รองรับนายทักษิณ ให้ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำ แต่อาจใช้สถานคุมขังอื่นตามกฎกระทรวงเช่น บ้านพัก หรือ โรงพยาบาล แต่ข้อเท็จจริง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 เริ่มร่างเมื่อปี 2558 เพื่อปฏิรูปงานราชทัณฑ์ ด้วยการยกเลิก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2479 ซึ่งใช้มา 80 ปี โดยขณะนั้น ตนยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ซึ่งตนเข้ามาเมื่อปี 2562 ส่วนการออกกฎกระทรวงใหม่ ก็เป็นขั้นตอนสืบเนื่องจากการออก พ.ร.บ.ฯ เมื่อประกาศใช้ ปี 2560 ส่วนราชการเจ้าของกฎหมาย ก็ต้องยกร่างกฎกระทรวงใหม่ โดยได้เริ่มยกร่างมาตั้งแต่ พ.ร.บ.ยังไม่ประกาศใช้ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี จากกรมราชทัณฑ์ ไปกระทรวง ส่งเข้าครม. ส่งไป ให้กฤษฎีกาตรวจร่าง แล้วถึงส่งคืนมาให้ รมว.ยุติธรรม ลงนาม ในปี 2563
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการกำหนดสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น เจตนาของกฎหมาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ต้องขังบางประเภท ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเรือนจำ อันเป็นเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม และทางด้านการปกครองเรือนจำเป็นสำคัญ เช่น ผู้ต้องโทษระยะสั้น ผู้ใกล้จะพ้นโทษ ผู้ป่วย แต่ไม่ใช่นักโทษเข้าใหม่แต่อย่างใด ซึ่งจะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ได้เริ่มมาตั้งแต่ ปี 2560 ก่อนที่ตน จะเข้ามารับตำแหน่ง ดังนั้น ที่รศ.ดร.ธนพร อธิบายความเชื่อมโยง ก็เป็นการสร้างความเข้าใจที่คาดเคลื่อน รวมถึงนายทักษิณ ก็เพิ่งประกาศว่าจะกลับประเทศไทย ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่กล่าวหาว่า มีการดีไซด์เรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อรองรับนายทักษิณ
“เรื่องนี้ เป็นการกล่าวหา แบบไม่ตรงเหตุและผล ซึ่งปกติ ผมจะไม่ค่อยออกมาตอบโต้ แต่ด้วยเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด ให้แก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ที่มีความตั้งใจแก้กฎหมาย โดยเรื่องนี้ แค่ดูปี พ.ศ.ที่ออก พ.ร.บ. ก็ไม่ใช่ยุคผมเป็นรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้น จะมาชี้นำว่า ผมเป็นคนช่วยแก้กฎหมาย เพื่อรองรับคุณทักษิณ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการแก้ไขกฎหมาย ไม่สามารถทำตามอำเภอใจ ของรัฐมนตรีได้ เพราะจะมีกลไกการตรวจสอบ ตั้งแต่การยกร่าง ครม. กฤษฎีกา และสภาฯ โดยการนำเรื่องมาผูกโยงเองแบบนี้ ทำให้พี่น้องประชาชน เข้าใจผมผิด ซึ่งตลอดเวลาที่นั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ผมทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน จนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยกให้กระทรวงยุติธรรมในยุคผม จากเกรดซี มาเป็นเกรดเอ เพราะมีหลายโครงการที่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง” นายสมศักดิ์ กล่าว