“ผู้การแต้ม” ติงพรรคการเมืองหยุด สร้างวาทกรรมอ้างความเป็นประชาธิปไตยใช้หาเสียง สร้างความแตกแยกแบ่งคนเป็นสองฝั่ง วอนประชาชนได้ใช้ดุลยพินิจ คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.66 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงในช่วงการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะหลังจากที่เริ่มเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้ง พบว่า มีหลายฝ่ายพยายามเรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่มประชาธิปไตย และโยนให้อีกฝ่ายว่าเป็นพวกไม่มีประชาธิปไตย ซึ่งตนก็ได้พยายามทำความเข้าใจในหลักของประชาธิปไตยว่า ประชาชนเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม และส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง ส่งเสริมการเมืองมีความสุจริต แต่ไม่ใช่หยิบเอาคำว่าประชาธิปไตยมาสร้างเป็นวาทกรรม แต่พรรคการเมืองจะต้องให้ความรู้กับประชาชนด้วยการชี้ให้เห็นถึงความเลวร้ายของบ้านเมืองเมื่อเกิดการทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง จนเกิดคอร์รัปชั่น โกงกินงบประมาณแผ่นดิน
ดังนั้นเมื่อพรรคการเมือง เริ่มหาเสียงด้วยการสร้างวาทกรรมว่า “เมื่อโกงมาก็โกงกลับ จะได้ไม่โกง” นั้น จึงทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงสภาพสังคมที่จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะสิ่งนี้เป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด และเป็นความคิดที่วิปริต สร้างความแตกแยกต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น ตนจึงขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ดุลยพินิจ คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ เพื่อเลือกบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเรา สำหรับเข้าไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน และทำให้บ้านเมืองพัฒนาขึ้น มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ไม่ใช่ไปเลือกเอาบุคคล หรือพรรคการเมืองที่หาเสียงโดยหวังที่จะเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้อง
เพราะเหตุนี้ พี่น้องประชาชนจำเป็นต้องมองให้เห็นถึงความตั้งใจ รวมถึงประวัติความเป็นมาของตัวผู้สมัคร ส.ส.ด้วยว่า บุคคลใดเป็นผู้มีความตั้งใจจริง และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง โดยวัดจากผลงานที่ได้ทำมา และส่งผลลัพธ์ให้ประเทศชาติและพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ก็จะทำให้เมื่อคนเหล่านี้ได้เข้ามาทำงาน ก็จะเป็นผู้ที่ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับการใส่ใจดูแลมากกว่า