การข่าวสมช.เชื่อ “ม็อบ 3 นิ้ว” มีอีเว้นท์เล็กๆ ต่อเนื่อง คู่ขนานไปกันวันซักฟอก เหิมหนักเริ่มมีป้ายไปแขวนตามพระบรมฉายาลักษณ์ ถือว่าเป็นการกระทำที่มิบังควร ด้านศึกซักฟอก “นายกฯลุงตู่” ขึ้นเขียงคนแรก เจ้าตัวปลุกใจ “รมต.ต้องรอดไปด้วยกัน” พร้อมประเมินผลงานรมต.รายพรรคหลังเสร็จศึกอภิปราย
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.64 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม เมื่อเข้าสู่วาระการประชุมเรื่อง “สถานการณ์ความมั่นคงในประเทศ” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19, สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้, สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน และ สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรว่า จะมีการนัดออกมาชุมนุมมากยิ่งขึ้น บ่อยขึ้นและต่อเนื่องในพื้นที่กทม. โดยจะเป็นการชุมนุมขนาดเล็ก ไปจนถึงช่วงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 16-20 ก.พ.นี้ ทั้งยังรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมีการนำป้ายไปแขวนตามพระบรมฉายาลักษณ์ ถือว่าเป็นการกระทำที่มิบังควร ขณะที่สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มีแนวโน้มความรุนแรงลดน้อยลง แต่หลังจากมีการประชุมคณะพูดคุยสันติสุขเพื่อจังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพูดคุยออนไลน์กับกลุ่มบีอาร์เอ็น และจะมีการพูดคุยออนไลน์เดือนละ 1 ครั้งในช่วงโควิด-19 ระบาด การข่าวเริ่มมีการก่อเหตุความรุนแรงเข้ามา
ขณะที่เมื่อเข้าวาระเรื่องสภาผู้แทนราษฎร นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการในคณะกรรมการประสานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) รายงานการอภิปรายว่า นายกฯจะเป็นคิวแรกที่จะถูกอภิปราย และตามด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะประสานฝ่ายค้านว่าจัดคิวให้วันไหน โดยนายกฯ ระบุว่า “เราเป็นรัฐบาลเดียวกันต้องช่วยเหลือกันรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายทั้ง 10 คน ต้องรอดไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าเราต้องรอดไปด้วยกัน ไม่น่ามีปัญหา”
ในช่วงท้ายก่อนปิดการประชุม นายกฯสั่งการว่า “ขอความร่วมมือทุกท่าน อย่าลืมไปทำการบ้านช่วยกัน ดูแลประชาชนและทำการเมืองด้วย และผมจะพิจารณาเป็นรายพรรคไปว่า การทำงานเป็นอย่างไรและผลงานเป็นอย่างไร รวมถึงทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต้องทำงานร่วมกันให้ ถ้าจะตรวจสอบอะไรก็ไปตรวจสอบกันตามระบบ ต้องเอาผลประโยชน์ประเทศเป็นที่ตั้ง ขอบคุณทุกคนที่ทำหน้าที่อย่างสมเกียรติ และขอฝากให้ไปดูเตรียมจัดทำงบประมาณปี 2565 ว่าต้องมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี”