“จุรินทร์” นำทัพลุยช่วย 5 ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก ย้ำจุดยืน ปชป. ประชาธิปไตย-ไม่โกง ไม่เอาระบอบประธานาธิบดี แนะปชช.เลือกพรรคการเมืองที่ยั่งยืน-รับผิดชอบร่วมทุกข์ ร่วมสุขได้ต่อไปอย่างยาวนาน ไม่เลือกพรรคเฉพาะกิจ
วันที่ 9 เม.ย.2566 ที่จ.พิษณุโลก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต นายอรัญ วงศ์อนันต์ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 26 เดินทางมาปราศรัยย่อยให้กับพี่น้องประชาชน ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาพาณิชยการ จ.พิษณุโลก เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก ประกอบด้วย เขต 1 นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เบอร์ 5 เขต 2 น.ส. ปุญชรัสมิ์ ศิริสวัสดิ์ เบอร์ 7 เขต 3 นายวิมล สารมะโน เบอร์ 1 เขต 4 น.ส.มุธิตา ทองคำนุช เบอร์ 6 เขต 5 นายพริ้ง บุญแสงสวัสดิ์ เบอร์ 4 และนำเสนอนโยบายที่มาพร้อมด้วยความรับผิดชอบ ตั้งแต่นโยบาย “ประกันรายได้ จ่ายเงินส่วนต่าง” “ชาวนารับ 30,000 ต่อครัวเรือน” “โฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี” “กรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับผู้ทำกินในที่ดินของรัฐ” “เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ” “Startup – SME ต้องมีแต้มต่อ” “ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” “ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาทต่อชมรม” “ธนาคารหมู่บ้าน/ชุมชนแห่งละ 2 ล้านบาท” เป็นต้น โดยมีพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย สนใจเข้ารับฟังการปราศรัยเต็มห้องประชุม และร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
จากนั้นนายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่ยืนหยัดหนักแน่น มั่นคงกับประชาธิปัตย์ ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ ซึ่งปัจจัยนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญที่คนพิษณุโลกจะพิจารณาตัวผู้สมัคร และตัวผู้สมัครทุกคนของเราก็มีความตั้งใจ มุ่งมั่นในการเข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน พร้อมกับหวังว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์จะปักธงที่จังหวัดพิษณุโลกได้ นอกจากนี้ตนมีความเชื่อมั่นว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถอยู่ในใจของประชาชนได้ เพราะนอกจากอุดมการณ์ที่เป็นจุดเด่นสำคัญของพรรคแล้ว ยังมีผลงาน และนโยบายที่โดนใจ ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่น และจุดแข็งของประชาธิปัตย์ รวมถึงแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งสมประสบการณ์มา ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร พร้อมเข้าไปทำหน้าที่ได้ จึงเชื่อมั่นว่าขณะนี้ประชาธิปัตย์มีเสียงสนับสนุนจากทั่วประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ
เมื่อถามว่าจากการที่ภาคเหนือกำลังผจญกับฝุ่นพิษ PM 2.5 พรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางในการแก้ไขอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องแก้ไขที่ต้นเหตุก่อนหากเป็นมลพิษที่เกิดจากรถยนต์ก็ต้องแก้ที่ควันรถ ต้องเร่งส่งเสริมการใช้รถ EV ให้มากขึ้น และส่งเสริมการใช้รถสาธารณะเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถ EV ให้มากขึ้น รวมถึงการเป็นฮับในการผลิตรถยนต์ EV ในภูมิภาคได้ต่อไป ส่วน PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาป่าหรือเผาไร่ ในแต่ละพื้นที่ก็ต้องเคร่งครัดการใช้กฎหมายมากขึ้น รวมทั้งต้องเดินหน้าในการเจรจาระหว่างประเทศ เพราะปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดเฉพาะที่บ้านเรา รวมทั้งการที่จะต้องไปเจรจาร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนด้วย นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์จะขับเคลื่อน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อให้แก้ไขปัญหามลพิษ และ ปัญหา PM 2.5 แบบครบวงจร
เมื่อถามว่าขณะนี้มีหลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยการชูเรื่องประชาธิปไตย นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจน ซึ่งตนได้ประกาศไปแล้วว่า จุดยืนสำคัญของประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นทางรอดให้กับประเทศก็คือ ประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องเดินหน้าการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องไม่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะหลายปีที่ผ่านมาประชาธิปไตยครึ่งใบ ต้องประสบแรงเสียดทาน ประสบปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นทางเดียวที่จะต้องขับเคลื่อนประเทศด้วยประชาธิปไตยเต็มใบ ระบบรัฐสภา ไม่ใช่ระบบประธานาธิบดี และเท่านั้นยังไม่พอ จะต้องเป็น “ประชาธิปไตยไม่โกง” ด้วย เพราะถ้าโกงเมื่อไหร่ เราก็สูญเสียประชาธิปไตยเมื่อนั้น จากหลายยุคที่เกิดการยึดอำนาจ รัฐประหาร ก็เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้นทุจริต คอร์รัปชั่น ดังนั้นเราต้องนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นบทเรียน
เมื่อถามถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งท่านก็พูดตามความจริง เพราะถ้าเลือกท่านมาเป็นนายกฯ ท่านก็อยู่ได้แค่ 2 ปี เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้แล้ว หลังจากนั้นก็จะเกิดประเด็นทางการเมืองขึ้นอีก ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นก็คิดว่าประชาชนก็มองออกว่าต้องเป็นประชาธิปไตยไม่โกง และพรรคการเมืองที่ยั่งยืนเท่านั้นที่จะต้องเข้ามารับผิดชอบบ้านเมืองที่จะเป็นทางรอดสำคัญของประเทศไทยด้วย
“ผมอยากให้เลือกพรรคการเมืองที่ยั่งยืน พรรคการเมืองที่รับผิดชอบ และสามารถร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชนได้ต่อไปอย่างยาวนาน ตลอดกาล ไม่อยากให้เลือกพรรคเฉพาะกิจ ไม่อย่างนั้นเราก็ได้อนาคตเฉพาะกิจ เราอยากให้ประชาชนได้อนาคตที่ยั่งยืน ก็ต้องเลือกพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมืองที่สามารถเดินหน้าได้อย่างยั่งยืน และมีหลักคิดที่ชัดเจน ประชาธิปไตยไม่โกง นโยบายอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบทั้งหมด ต่อสิ่งที่คิด ที่ทำ ประชาชนมาทวงถาม ทวงคืนความรับผิดชอบได้ในอนาคต ไม่ใช่เลือกไปแล้วต่อไปไม่รู้จะไปทวงถามกับใคร เพราะพรรคนั้นๆ เลิกราไปแล้ว”นายจุรินทร์ กล่าว