วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS''หญิงหน่อย''หนุน อปท.ช่วยจัดหาวัคซีน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”หญิงหน่อย”หนุน อปท.ช่วยจัดหาวัคซีน

คุณหญิงสุดารัตน์ แนะปรับแผนแจกจ่ายวัคซีน ยันหนุน อปท.ช่วยจัดหา ย้ำทำช้ากว่านี้ คนตัวเล็กยิ่งสาหัส

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์  เปิดเผยถึงการปรับแผนแจกจ่ายวัคซีน เพื่อจบปัญหาโควิด-19 ว่า หากเปิดโอกาสท้องถิ่นนำเงินสะสมมาช่วยซื้อวัคซีนเพื่อช่วยเร่งกระจายวัคซีนได้ทั่วถึง รวดเร็ว เพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจให้คนไทยทุกคน รวมทั้งจะเป็นการเพิ่มอำนาจต่อรองให้ไทยได้วัคซีนได้เร็ว และราคาถูกลง ไม่ใช่ซื้อช้า แต่กลับได้ราคาแพง

เมื่อเดือนที่แล้ว ดิฉันได้เสนอแนวคิดในการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีเงินสะสมอยู่หลายแสนล้าน ได้สามารถมีส่วนร่วมในการจัดหาวัคซีนให้คนในพื้นที่ของเขา โดยเอาเงินมาให้กระทรวงสาธารณสุขจัดซื้อวัคซีน เพื่อนำไปฉีดให้ประชาชนในพื้นที่นั้น เพื่อประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ และช่วยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที

ยกตัวอย่างจังหวัดภูเก็ต ที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากการท่องเที่ยว ถ้าท้องถิ่นเขามีความพร้อม และต้องการฟื้นเศรษฐกิจภูเก็ตให้ได้รวดเร็ว ท้องถิ่นภูเก็ตควรสามารถจัดงบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนผ่านกระทรวงสาธารณสุขได้ ถัดจากนั้นไม่กี่วัน ดิฉันได้เห็น อปท. จำนวนมากออกมาขานรับข้อเสนอนี้ แต่ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้แจ้งคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศว่า ไม่สามารถให้ภาคเอกชน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนป้องกัน COVID-19

ดิฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน และดิฉันยังยืนยันที่จะให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดวัคซีนให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รวดเร็วและทั่วถึง โดยขอเสนอว่า 1.วัคซีนที่ อปท.จะจัดซื้อได้ ต้องผ่านกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น เพียงแต่ท้องถิ่นช่วยเอาเงินสะสมของตนเอง ซึ่งทั่วประเทศมีเหลือหลายแสนล้านมาช่วยซื้อวัคซีน 2.วัคซีนที่ อปท.จัดงบประมาณซื้อ ก็ต้องไปให้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ไปฉีดให้ประชาชน ในแต่ละพื้นที่อยู่ดี

ดิฉันขอเรียกร้องรัฐบาลว่า คนไทยต้องได้รับวัคซีนไม่ช้าไปกว่าประเทศอื่น วันก่อนมีรายงานข่าวเผยแพร่ไปทั่วว่า ‘ไทยตกขบวน COVAX ชาติเดียวในอาเซียนไม่ได้วัคซีน’ โดยแผนการฉีดวีคซีนในไทยจากเดิมที่จะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นมิถุนายน รัฐบาลให้ตัวเลขมาเองว่าการที่มีวัคซีนช้าไปหนึ่งเดือน ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจถึง 250,000 ล้านบาทต่อเดือน ช้าไป 4 เดือน สูญเสียไปถึง 1 ล้านล้านบาท

ผู้มีอำนาจต้องเร่งปรับแผนแจกจ่ายวีคซีน เพราะถ้าไทยเปิดประเทศได้ช้ากว่าประเทศอื่น ทำให้เราสูญเสียจากรายได้จากการท่องเที่ยว การค้าการขาย รวมทั้งการลงทุน เวลามีต้นทุนอย่างยิ่ง และต้นทุนนี้เดิมพันด้วยความทุกข์ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการล้มลงของระบบเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ SMEs และแรงงาน คนตัวเล็กทั่วประเทศ ทำช้าไปกว่านี้ปากท้องของคนตัวเล็กทั่วประเทศยิ่งสาหัส

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img