วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"วราวุธ" ประเดิมเวทีปราศรัย กทม. ชูนโยบายพลังงาน ดันเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า แทนน้ำมัน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“วราวุธ” ประเดิมเวทีปราศรัย กทม. ชูนโยบายพลังงาน ดันเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า แทนน้ำมัน

“วราวุธ” ประเดิมเวทีปราศรัย กทม. ชูนโยบายพลังงาน ดันเปลี่ยนใช้รถไฟฟ้า แทนน้ำมัน อ้อนคนกรุงฯ เลือก “พิเชฐ” คนธรรมดาติดดินรับใช้ชาวคู้บอน ด้าน “สันติ” ย้ำ “ชาติไทยพัฒนา” เน้นทำงานไม่ยุ่งความขัดแย้ง

วันที่ 20 เม.ย.2566 เวลา 18.00 น. ที่ ตลาดป้ากิ่ง ซ.คู้บอน 27 กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค เปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ เวทีแรก พร้อมแนะนำตัว ขอเสียงสนับสนุน นายพิเชฐ เดชอรัญ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 12 เบอร์ 8 โดยมี ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พื้นที่ใกล้เคียงร่วมเวที ท่ามกลางประชาชนในพื้นที่มาร่วมรับฟังและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นายวราวุธ กล่าวปราศรัยว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาปราศรัย ที่คู้บอน ซึ่งเขตนี้พรรคชาติไทยพัฒนา เคยมี ส.ส. คือ แบม จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ อดีตนักแสดงและพิธีกร เข้ามาทำงานในสมัย นายบรรหาร และความฝันอุดมการณ์ที่จะทำงานให้กับชาวคู้บอน ก็ยังอยู่ ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีหู มีตา ที่จะไปดูไปรับฟังปัญหาของพี่น้อง กทม. ก่อนหน้านี้เคยไปที่เขตหนองจอก ก็พบว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกมาก เช่นเดียวกับที่คู้บอน ก็มีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอีกมาก และอยากเข้ามาพัฒนา มาแก้ปัญหาให้ วันนี้เลือกตั้งบัตร 2 ใบ อยากได้ ส.ส. แบบเดิม ทำแบบเดิม ๆ ได้นายกฯ เดิม ๆ และอยู่กันแบบเดิม ๆ วันนี้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด เปลี่ยนวิธีทำ และนโยบายต้องมาจากการรับฟัง เป็นนโยบายที่แก้ไขปัญหาในวันนี้ และในอนาคตไปพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่แจกเงินในวันนี้ และทิ้งภาระหนี้สิน ทิ้งปัญหาให้ลูกหลานในอนาคต”

นายวราวุธ ยังกล่าวว่า ปัญหาพลังงาน น้ำมันแพง พรรคชาติไทยพัฒนา มีนโยบายที่จะเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ เป็นระบบไฟฟ้าให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลด PM2.5 และเมื่อไม่ใช้น้ำมัน และไม่มีการปล่อยคาร์บอน สิ่งที่จะได้ก็จะเป็นคาร์บอนเครดิต เอาเงินกลับมาเข้ากระเป๋าให้กับคนไทย และเป็นสิ่งที่จะทำให้ไทยมีเวที มีที่ยืนในเวทีโลกได้
วันนี้วราวุธ บอกได้ว่า ในรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของแต่ละพรรค วราวุธ สู้ได้หมด และในบรรดาแคนดิเดตของทุกพรรค ก็มีพรรคชาติไทยพัฒนาที่ติดดินที่สุด

นายวราวุธ ยังย้ำถึงการลงคะแนนเลือกตั้ง วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ให้เลือกนายพิเชฐ เบอร์ 8 ในบัตรเลือกตั้งสีม่วง และบัตรเลือกตั้งสีเขียว ให้หาเบอร์ 18 โลโก้ และชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา และกากบาทลงช่องว่างด้านหลัง จึงหวังว่าอีก 24 วันจากนี้ ประชาชนจะลงคะแนนให้พรรคชาติไทยพัฒนา เลือกคนธรรมดา คนติดดินเข้าไปทำงาน และรับประกันว่าหลัง 14 พฤษภาคม ผู้สมัคร จะได้เป็น ส.ส. หรือไม่ก็ตาม ทุกคนจะยังทำงานในพื้นที่ต่อไป เพราะเรายึดมั่นในสัจจะ กตัญญู ที่ให้ไว้กับชาวคู้บอน

ด้านนายสันติ กล่าวว่า ขอประชาชนช่วยกันเลือก ผู้สมัคร ส.ส. และ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะทุกคนไม่ได้เข้ามาเล่น ๆ แต่ทำงานกันอย่างจริงจัง พร้อมให้คำมั่นว่า หลังการเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค จะได้เข้าสภาฯ หรือ ไม่ได้เข้าสภาฯ ทุกคนก็จะยังลงมาพบ มารับฟัง ช่วยเหลือทุกคนเช่นเดิม เพราะนี่คือสิ่งที่นายวราวุธ ได้บอกกับผู้สมัครทุกคนไว้ เราไม่เคยเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร บางพรรคบอกก้าวข้ามความขัดแย้ง อันนี้โบราณมากครับ เพราะเป็นสิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนา พูดมานานแล้ว และพรรคชาติไทยพัฒนา ก้าวข้ามเรื่องนี้ และไม่เข้าไปเล่นกีฬาสีมานานแล้ว เพราะเสียเวลาในการทำงาน เราไม่ได้บ้าอำนาจ ไม่ได้อยากแสวงหาอำนาจ แต่เรารู้จักหน้าที่ เมื่อใครก็ตามที่เข้าไปเป็น ส.ส. เป็น รัฐมนตรี ในคณะรัฐมนตรี อยู่ฝ่ายบริหาร ต้องเข้าไปทำหน้าที่ ทำงาน ไม่ใช่สร้างความขัดแย้ง เพราะเวลามีจำกัด ต้องทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น

นายสันติ กล่าวต่อว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีชุดที่ผ่านมา ปรับ ครม. กันที ไม่ได้เลือกที่ความรู้ความสามารถ แต่เลือกกันที่พวกพ้อง และเลือกว่าเข้าไปแล้วจะสืบทอดอำนาจได้แค่ไหน ทำให้พรรคได้เปรียบในการเลือกตั้งเขาหรือไหม ปรากฏการณ์นี้ไม่เกิดกับพรรคชาติไทยพัฒนา เพราะรัฐมนตรีของพรรค ทั้ง 2 คน ต่างก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่ได้มาสนใจเรื่องเหล่านี้ วันนี้หลายคนจับจ้องว่า ถ้าคนนั้นเป็นนายกฯ เดี๋ยวข้างนี้ก็ประท้วง คนนี้เป็นนายกฯ อีกข้างก็ไม่ยอม ไอ้ที่บอกว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ก้าวข้ามธรณีประตูแบบไม่สะดุดหกล้มให้ได้ก่อนดีกว่าไหม กลับมาดูว่าใครน่าจะเป็นนายกฯ ที่พร้อมที่สุด ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และทำงานให้กับประชาชนอย่างเข้มแข็ง มีใครจะดีไปกว่านายวราวุธ ศิลปอาชา บ้าง

“นโยบายพรรคการเมืองหลาย ๆ พรรค ที่บอกจะแจก เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดินสูง รวมกันแล้วเป็น ล้านล้านบาท แต่รู้หรือไม่ว่าจะเป็นภาระให้กับลูกหลาน ต้องเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา จึงคิดและทำอย่างเป็นแบบแผน ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ทิ้งภาระเหล่านี้ไปถึงอนาคต”
นายสันติ กล่าว

ด้านนายกนก กล่าวว่า วันนี้เรามีผู้แทนฯ ที่มาจากที่อื่นมากมาย แต่ไม่มีผู้แทนฯ ที่มาจากพี่น้องประชาชน ซึ่งนายพิเชฐ เป็นคนธรรมดา ขับรถจักรยานยนต์ ทำมาหากิน เหมือนกับทุกคน และเชื่อว่าในวันที่นายพิเชฐ ได้เป็นผู้แทนฯ ของเขต 12 จะเป็น ส.ส. คนหนึ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนา ภาคภูมิใจ ที่สามารถอยู่แนวหน้าของพรรคได้ สิ่งที่มีค่าของนายพิเชฐ คือ เขาเกิดมาจน คนจนไม่ได้เลวเสมอไป เขามีคุณค่า การที่เขาจน ก้มหน้าก้มตาทำงาน จาก จ.ตรัง มาที่คู้บอน ความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน ทำให้เขาเติบโต มีครอบครัว มีลูกประสบความสำเร็จ และทำให้เขามีจิตใจที่เอื้อเฟื้อต่อพี่น้องของเรา นี่คือคุณค่าที่เขาไม่เคยลืม เมื่อวันที่เขาเป็นผู้แทนฯ เขาจะทำงานเพื่อพวกเราอย่างแท้จริง นี่คือเหตุผลที่ต้องเลือกนายพิเชฐ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้” ศ.ดร.กนก กล่าว

นายพิเชฐ กล่าวว่า ตนเองเดิมเป็นคนภาคใต้ และสู้ชีวิต เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เป็นนักดนตรีกลางคืน ได้คืนละ 40 บาท แต่ตั้งใจขยันทำงานจนส่งลูก 2 คนเรียนจบปริญญา และปักหลักอยู่ในกรุงเทพฯ จึงเป็นคนธรรมดา หาเช้ากินค่ำ และเป็นคนติดดิน ที่มีความตั้งใจที่จะมาทำงานการเมือง ซึ่งเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ได้ทำงานจิตอาสา ช่วยเหลือพี่น้องชาวบางเขนมาโดยตลอด และเคยทำงานเป็นผู้ช่วย ส.ส. มาหลายคน สุดท้ายจึงตั้งใจที่จะทำงานจริง ๆ จึงมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคชาติไทยพัฒนา

“ผมทำงานเพื่อชาวบ้าน ผมไม่เคยทะเลาะกับใคร เพราะมีใจให้กับประชาชน ต้องการรับฟัง ทราบปัญหาต่าง ๆ จึงอยากขอโอกาส ขอคะแนนเสียง เพื่อเข้าไปเป็นกระบอกเสียงในสภาฯ เชื่อว่าผมจะเป็นคนหนึ่งที่เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไปพูดในสภาฯ ให้ได้รับการแก้ไขให้ได้ และผมไม่ใช่เจ้านาย แต่ผมเป็นผู้รับใช้พี่น้องประชาชน” นายพิเชฐ กล่าว

ทั้งนี้ก่อนการปราศรัย ได้มีตัวแทนประชาชนในพื้นที่ เขตเลือกตั้งที่ 12 เขตบางเขน (แขวงท่าแร้ง) เขตสายไหม และเขตลาดพร้าว (แขวงจรเข้บัว) สลับกันขึ้นมาพูดถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เช่น ปัญหาน้ำท่วม การขุดลอกพัฒนาคูคลอง โดยเชื่อว่าหากนายพิเชฐ และ นายวราวุธ ได้เข้ามาเป็น ส.ส. และได้ทำงานในกระทรวงสำคัญ จะได้รับการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วเหมือนเช่นการทำงานในกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ผ่านมา

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img