“กกต.” ติวเข้มผู้ตรวจการเลือก-ชุดเคลื่อนที่เร็วป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง เร็วประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสพร้อมรับเงินรางวัล
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. เป็นประธานในการประชุมชี้แจงแนวทางการปฎิบัติหน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสารและการป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง โดยมีผู้ที่ร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้ง จำนวน 423 คน ชุดเคลื่อนที่เร็ว 400 ชุด ประจำ 400 เขตเลือกตั้ง ผู้บริหารกลุ่มภารกิจสืบสวนไต่สวนวินิจฉัย และดำเนินคดีในศาล ชุดปฏิบัติการข่าวจำนวน 11 ชุด ชุดละ 3 คน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร รวมถึงรองผู้อำนวยการ และชุดปฏิบัติการข่าวส่วนภูมิภาค เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายระเบียบประกาศ และมติของกรรมการการเลือกตั้ง ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติหน้าที่ ในการแสวงหาข้อมูลข่าวสาร และการป้องกัน ปราบปรามการทุจริต แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ได้รับการแต่งตั้งตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้มาทำหน้าที่ช่วยเหลือ และสนับสนุน การปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เกี่ยวกับการเลือกตั้งสนับสนุนการเลือกตั้ง เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้เกิดการเลือกตั้งที่สุจริต และเที่ยงธรรม เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย สนับสนุนการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในการป้องปราม และหาข่าวเกี่ยวกับการกระทำความผิด ในการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายอิทธิพร กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรในการทำงานร่วมกัน และสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ทางผู้ตรวจการเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่จะทำให้ กกต. ทราบข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ในการทุจริตเลือกตั้งเพื่อนำมาตรวจสอบ และวินิจฉัยดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ตรวจการเลือกตั้ง หลายคนมีประสบการณ์ จากการเลือกตั้งหลายหลายครั้งที่ผ่านมา คาดหวังว่าจะนำข้อมูลที่ได้ มาแลกเปลี่ยน กับชุดเคลื่อนที่เร็ว เพื่อช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบการกระทำความผิดการเลือกตั้ง ร่วมกันตรวจสอบ จัดเก็บพยานหลักฐาน บันทึกหลักฐานการกระทำความผิดผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งภาพและเสียง นำมาใช้เป็นหลักฐานมัดตัวผู้กระทำความผิด ในส่วนของชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่มีอยู่ทุกจังหวัดรวม 400 ชุด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสัญญาบัตร 1 นาย และประทวน 2 นาย ซึ่งจะมีภารกิจสำคัญ คือการป้องปราม และการหาข่าว จากชุมชน หมู่บ้าน ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งคนในชุมชนถือว่ามีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ได้อีกทาง หากผู้ตรวจการเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็ว มีความคุ้นเคย กับคนในพื้นที่ ก็จะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลข่าวสาร และพยานหลักฐานต่างๆ ได้และจะทำให้การสืบสวนไต่สวนมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายอิทธิพร ยังได้กำชับให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งแต่ละจังหวัด เข้าไปแนะนำตัวกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด เพื่อทำความคุ้นเคยกัน และจะได้ขอความช่วยเหลือจากองค์กรท้องถิ่น ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่ สำนักงาน กกต. ให้ความสำคัญ กับการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชน และเอกชน ที่จะส่งเสริมให้ร่วมกันตรวจสอบการเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม เพื่อให้ได้ สส. มาทำหน้าที่แทนประชาชน ซึ่งจะต้องเป็นบุคคล ที่มีความซื่อสัตย์ สุจริต ขอให้ทุกหน่วยงาน เร่งประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบ ว่าหากร่วมเป็นหูเป็นตาพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดการเลือกตั้ง สามารถแจ้งข้อมูลหลักฐาน ให้ กกต. ได้ และจะได้รับเงินรางวัลเป็นค่าตอบแทน หากข้อมูลดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิดผู้กระทำความผิด และเมื่อแจ้งเบาะแสแล้วกลัวว่าอาจเกิดอันตราย สามารถร้องขอให้ กกต. จัดระบบการคุ้มครองพยาน เพื่อความปลอดภัยได้
“สำหรับผู้ที่กระทำความผิด แต่กลับใจ กกต. จะกันไว้เป็นพยาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และสำคัญ นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ โดยที่ผ่านมา มีผู้กระทำความผิดกลับใจ และอยู่ในกระบวนการคุ้มครองพยานแล้วกว่า 70 คน อย่างไรก็ตาม การบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อวางแผนปฏิบัติหน้าที่ และลงพื้นที่ระหว่างผู้ตรวจการเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็ว รวมถึงชุดปฏิบัติการข่าวทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ก็เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจการจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย”ประธานกกต.กล่าว
