วันศุกร์, มิถุนายน 28, 2024
หน้าแรกHighlight‘เศรษฐา’เย้ย‘ก.ก.’โพลพุ่งแค่ในโซเชียล คุยฟุ้ง 3 แคนดิเดตนายกฯ‘พท.’มีจุดแข็ง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เศรษฐา’เย้ย‘ก.ก.’โพลพุ่งแค่ในโซเชียล คุยฟุ้ง 3 แคนดิเดตนายกฯ‘พท.’มีจุดแข็ง

เศรษฐา’ มั่นใจ ‘พท.’ ฐานเสียงแข็งแกร่งพาแลนด์สไลด์ เชื่อได้ 200 กว่าที่นั่งกลางๆเย้ย ‘ก้าวไกล’ โพลพุ่งแค่โซเชียล-วัดคะแนนหลักพันคน ฟุ้ง 3 แคนดิเดตนายกฯมีจุดแข็ง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งจะแก้เกมกับกระแสของพรรคก้าวไกลที่มาแรงทุกโพลอย่างไรว่า คงไม่มีอะไรแก้ เพราะโพลของเราก็มาดี และเรายังมั่นใจอยู่ว่าเราจะได้เกินครึ่งหนึ่ง สำหรับกระแสที่ออกสื่อย้ำๆนั้นก็เป็นแค่กระแส เพราะเวลาลงพื้นที่แล้วโพลของเราก็ยังมีอยู่ และดีอยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่า แต่โพลก็มีผลต่อการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ตนคิดว่า ขึ้นอยู่กับพรรคและนโยบาย รวมถึงผู้นำ ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว จะเล่นกันไม่ได้ ไม่ใช่สนามที่ประลองฝีมือ แต่เป็นของคนที่มีประสบการณ์หรือพรรคที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานว่าสามารถทำนโยบายที่เสนอเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่เราต้องตอกย้ำต่อไป อีกทั้งโพลบางโพลก็ทำแค่ 1-2 พันคน เราควรเอาโพลที่ทำเป็นแสนมาเป็นตัวชี้วัดดีกว่า

เมื่อถามย้ำว่า ยังมั่นใจว่ากระแสของพรรคก้าวไกล ยังสู้ฐานเสียงของพรรค พท. ไม่ได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “สู้ไม่ได้ เรามั่นใจครับ เรามั่นใจความแข็งแกร่งของฐานเสียง และมั่นใจในนโยบาย มั่นใจในความที่เราเป็นสถาบันทางการเมืองมานาน ที่พิสูจน์ได้ว่าเราทำได้จริง”

เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้ฐานเสียงของพรรค พท. ยังเพียงพอทำให้แลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าแลนด์สไลด์ หมายความว่าอะไร ถ้า 200 กลางๆ ขึ้นไป ตนคิดว่าตนได้อยู่ หรือ 280 เราก็ยังมั่นใจอยู่ แต่จะถึง 300 หรือไม่นั่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โค้งสุดท้ายว่าจะเป็นเช่นไร แต่ก็ยังมีความหวังอยู่

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมช่วงโค้งสุดท้ายกระแสก้าวไกลยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องของโซเชียลส่วนหนึ่ง และอาจเป็นช่วงจังหวะที่ผลโพลออกมา แต่อย่างที่เรียนไปว่าโพลบางโพลมีแค่ 2,000-2,500 คน ซึ่งประเทศไทยมีประชากรไทยที่สามารถโหวตได้ประมาณ 39 ล้านคน ต้องเอานโยบายเป็นหลัก ประวัติศาสตร์ การพิสูจน์ฝีมือมาโดยตลอด และผู้นำที่เคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว ทีมงานที่อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด ตรงนี้เป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญมากที่สุด

เมื่อถามว่า กระแสที่เทไปทางพรรคก้าวไกลส่วนหนึ่งมีการวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท. มี 3 คน และไม่มีความชัดเจนว่าสรุปแล้วเลือกพรรค พท. จะได้ใครเป็นนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าเป็นประเด็น ตนคิดว่าจะเป็นจุดแข็งมากกว่า เพราะจริงๆ เรามีทีมที่แข็งแกร่ง ทั้ง 3 คนมีจุดแข็งแตกต่างกัน ดังนั้นนายกฯจากพรรค พท. ก็คือ 1 ใน 3 คน รอผลการเลือกตั้งออกมาก่อน ใจเย็นๆ

ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม”

ด้านนายประเสริฐ จันทรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการทำโพลของพรรค พท. ว่า เรายังมั่นใจในแนวทางของพรรค พท. อยู่ ซึ่งโพลมีหลายสำนัก แต่พรรค พท. เราก็มีโพลภายในของเราเอง ซึ่งโพลภายในของเราก็ยังมีระดับความมั่นใจที่สูงอยู่ และแลนด์สไลด์อยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่พื้นที่โคราชเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่มีการแข่งขันสูงในหลายพรรค นายประเสริฐ กล่าวว่า วันนี้พรรค พท. มั่นใจอย่างมาก โคราชมีอยู่ 16 เขต เรามั่นใจว่าจะได้เกือบหมด ขณะนี้นโยบายพรรค พท. ได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงินเดือนปริญญาตรี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้โหวตเตอร์ได้ตัดสินใจ และเราเชื่อมั่นในนโยบาย ซึ่งในพื้นที่โคราชนโยบายยังเป็นสิ่งที่ชี้นำอยู่ในการตัดสินใจ

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เป็นพรรครัฐบาลในพื้นที่โคราช นายประเสริฐ กล่าวว่า ในพื้นที่เป็นการต่อสู้กันระหว่างพรรค พปชร. พรรค ภท. และ พรรค พท. ซึ่งครั้งนี้เรามั่นใจในนโยบายของเรา และผู้สมัครของเรา ที่เราได้คัดมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร และแคนดิเดตนายกฯของเราก็ชัดเจน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img