กกต.ตอบ 4 คำถามพรรคก้าวไกล ระบุ จ้างแรงงานสังเกตการณ์เลือกตั้งได้ โดยการจ่ายค่าจ้างแรงงานควรสอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละจังหวัด
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 66 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ทำหนังสือตอบข้อสอบถามกรณีพรรคก้าวไกล กรณีมีการสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของกกต.4 ประเด็น ดังนี้
1. ในวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งสามารถจ้างแรงงานบุคคลให้สังเกตการณ์การนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้ง หลังปิดหีบเลือกตั้ง หรือจ้างแรงงานผู้สังเกตการณ์การทุจริตในการออกเสียงลงคะแนนโดยประจำอยู่ที่บริเวณนอกหน่วยเลือกตั้งซึ่งมิใช่บุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ได้ใช่หรือไม่
2. กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สามารถจ้างแรงงานบุคคลตามข้อ 1 ได้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งสามารถจ่ายค่าจ้างแรงงานในอัตราค่าตอบแทนตามความเหมาะสม เช่น ในอัตรา 500 บาท ต่อวัน ได้หรือไม่
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อสอบถามที่ 1 และ 2 สามารถจ้างได้ โดยการจ่ายค่าจ้างแรงงานควรสอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละจังหวัด
ส่วนข้อสอบถามที่ 3. ในกรณีที่บุคคลซึ่งพรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง อันเป็นกรณีพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาซิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่ประสงค์รับค่าจ้างตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้ง และไม่รับค่าจ้างตอบแทนในการดำเนินการดังกล่าว เช่นนี้ พรรคการเมืองจะต้องคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือไม่
ข้อนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคการเมืองต้องนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง
และคำถาม 4. การดำเนินการสรรหารู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ วันสุดท้ายที่พรรคการเมืองสามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครดังกล่าวได้ วันก่อนวันเริ่มรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ใช่หรือไม่
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า ต้องดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 47 ถึง มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566.
