“ก้าวไกล” ยก 4 พิรุธเลือกตั้งล่วงหน้า จี้ กกต. ชี้แจงด่วนอย่าปล่อยสังคมคาใจ 14 พ.ค.ต้องแก้ไขไม่ให้ซ้ำรอย
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่พรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงความผิดปกติของการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งล่วงหน้า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลได้พบความผิดปกติในการทำงานของ กกต. เช่น บางหน่วยเลือกตั้ง ไม่มีรูปผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล หรือการส่งเอกสารแนะนำผู้สมัครไปที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในบางเขตเลือกตั้ง ไม่มีรูปและหมายเลขแนะนำผู้สมัครพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมาเราคาดหวังว่า กกต. จะปรับปรุงการทำงานให้ไม่เกิดความผิดพลาดในวันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายจากที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา กลับพบความผิดปกติจำนวนมากที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตหรือเป็นความผิดพลาดในการจัดการเลือกตั้งกันแน่ วันนี้จึงต้องตั้งคำถามและหวังให้ กกต. ชี้แจงต่อสาธารณะให้ชัดเจน
นายพิจารณ์ กล่าวว่า ความผิดปกติดังกล่าว มีหลักๆ 4 รูปแบบ ประกอบด้วย 1.กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ไม่กรอกข้อมูลและตัวเลขหน้าซองใส่บัตรเลือกตั้ง บางคนกรอกเลขเขตเลือกตั้งผิด โดยซองเหล่านี้จะถูกส่งไปที่ศูนย์ของไปรษณีย์ ก่อนคัดแยกส่งไปตามแต่ละเขตเลือกตั้ง คำถามคือถ้าเจ้าหน้าที่กรอกเลขเขตเลือกตั้งผิดหรือกรอกไม่ครบ เจ้าหน้าที่จะส่งซองนั้นไปที่ไหน ประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นความผิดพลาดในการออกแบบระบบที่ทำให้ กปน. แค่คนเดียว เปลี่ยนเลขแค่หลักเดียว ทำให้คะแนนของประชาชนอาจหายไปทันที หรือเลวร้ายกว่านั้น คือการไปเติมคะแนนให้พรรคอื่นที่ประชาชนไม่ได้ตั้งใจเลือก
นายพิจารณ์ กล่าวว่า 2. กกต. ไม่ติดรูปภาพและข้อมูลผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล หน้าหน่วยเลือกตั้ง โดยเขตที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือเขตเลือกตั้งที่ 1 และ 2 ของจ.น่าน จึงต้องส่งเสียงดังๆ ไปถึง กกต. ว่าในวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. บนบอร์ดต้องมีแนะนำผู้สมัครของพรรคก้าวไกล อย่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอให้กำชับและสั่งการ กปน. ให้ตรวจสอบ เพราะการไม่มีชื่อและหมายเลข อาจทำให้ประชาชนสับสนและเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งผู้สมัครในเขตเลือกตั้งดังกล่าว
นายพิจารณ์ กล่าวว่า 3. ความผิดปกติของจำนวนประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในบางจังหวัดมีผู้ออกมาใช้สิทธิในสัดส่วนที่มากกว่าค่าเฉลี่ย ได้แก่ จ.ขอนแก่น อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ และยังพบว่าผู้ที่ออกไปใช้สิทธิส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุซึ่งไม่ได้ทำงานอยู่ในจังหวัดอื่นที่แตกต่างจากทะเบียนบ้านของตัวเอง จึงต้องตั้งคำถามว่ามีอะไรเหตุผลทำให้ต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงการใช้รถขนพี่น้องประชาชนไปหน่วยเลือกตั้ง ถือเป็นการซื้อเสียงผ่านการเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ กกต. ต้องลงไปตรวจสอบ ทำงานเชิงรุกเพื่อตรวจจับการซื้อเสียง และ 4.ประชาชนจำนวนไม่น้อย ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เมื่อไปตรวจสอบหน้าหน่วยเลือกตั้ง กลับไม่พบชื่อของตัวเอง
นายพิจารณ์ กล่าวว่า จากความผิดปกติทั้งหมดนี้ ขอให้ กกต. ออกมาชี้แจงรายละเอียดและแนวทางแก้ไขปัญหา ว่าจะทำอย่างไรให้ผลการเลือกตั้ง สามารถสะท้อนเจตนารมณ์ของผู้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ให้การลงคะแนนเป็นไปตามที่เขาตั้งใจออกมาใช้สิทธิ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด หาก กกต. ไม่สามารถชี้แจงได้ ตนและประชาชนจำนวนมากขอตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่วนทางพรรคจะดำเนินการทางกฎหมายต่อหรือไม่ เราจะดูหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งก่อนที่ฝ่ายกฎหมายจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรในขั้นตอนต่อไป
“วันนี้ความนิยมของพรรคก้าวไกลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากนโยบายและจากความชัดเจนในจุดยืนของผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคและของแคนดิเดตนายกฯ มาถึงวันนี้อาจกล่าวได้ว่าเลือกตั้งครั้งนี้ เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่กำลังแข่งกับการทำงานของ กกต. ว่าจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม นำคะแนนเสียงและเจตนารมณ์ของประชาชนออกมาเป็นคะแนนที่ถูกต้องได้หรือไม่” นายพิจารณ์กล่าว
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ขอฝากไปถึงผู้สนับสนุน หัวคะแนนธรรมชาติของพรรคก้าวไกลทุกคน อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง เรามีภารกิจสำคัญ 2 ประการร่วมกัน ภารกิจที่หนึ่ง คือการขยายแนวคิด ช่วยบอกต่อคนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนข้างบ้าน ว่าเพราะอะไรจึงอยากให้พรรคก้าวไกลเข้ามาเป็นรัฐบาล ให้นายพิธาเป็นนายกฯ และภารกิจที่สอง คือช่วยกันปกป้องคะแนนของพวกเรา เพราะชัยชนะในวันที่ 14 พ.ค. จะไม่ใช่ชัยชนะของพรรคก้าวไกลหรือของนายพิธา แต่เป็นชัยชนะของพี่น้องประชาชน โดยสามารถร่วมเป็นอาสาสมัครของหน่วยงานภาคประชาชนเข้าไปสังเกตการณ์การนับคะแนนเลือกตั้งของ กกต. ได้
เมื่อถามถึงกรณีนายสาธิต ปิตุเตะชะ รมช.สาธารณสุข เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการปราศรัยที่ จ.ระยอง พาดพิงการทำงานของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า คิดว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับพรรคที่กำลังที่กำลังจะมาเป็นอันดับหนึ่งที่จะถูกหลายกระแสพยายามจะสร้างความไม่ชอบธรรมให้กับพรรคก้าวไกล คิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นการตอบสนองของคนที่ไม่แน่ใจว่ากำลังจะเพลี่ยงพล้ำในเขตบ้านตัวเองหรือไม่ ก็ตั้งเป็นข้อสังเกต ซึ่งขอเรียนไปยังประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลว่าเราไม่ต้องหวั่นไหว เวลาเหลืออีกไม่ถึง 1 สัปดาห์แล้ว ช่วยกันเดินลงพื้นที่เคาะทุกประตู เดินทุกถนน บอกกล่าวพี่น้องประชาชน และเชื่อมั่นว่าชัยชนะจะเป็นของพวกเรา